สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ ขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ในเดือนพ.ค.
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.40 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ 1289.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 17 เซนต์ หรือ 1.03% ปิดที่ 16.405 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.88% ปิดที่ 900.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 15.70 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 971.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.45% แตะระดับ 94.01 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่า จะลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาสูงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่านั้น มาจากรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค.ของสหรัฐ อยู่ที่ 56.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 44 เดือน จากระดับ 56.5 ในเดือนเม.ย. ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ค. อยู่ที่ 55.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 54.6 ในเดือนเม.ย.
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลังจากตลาดปิดทำการแล้ว สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.ค.ดีดตัวขึ้นในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 1-2 พ.ค. โดยนักลงทุนมองว่า รายงานดังกล่าวไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วไปกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้แล้วก่อนหน้านี้