สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์การเมืองระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือเริ่มส่งสัญญาณคลี่คลาย ภายหลังจากเกาหลีเหนือได้แสดงความพร้อมที่จะหันหน้าเจรจากับสหรัฐ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังได้ฉุดสัญญาทองคำปิดลดลงเช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ขยับลง 70 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,303.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 14.1 เซนต์ หรือ 0.84% ปิดที่ 16.546 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 11.3 ดอลลาร์ หรือ 1.24% ปิดที่ 901.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 9.30 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1% ปิดที่ 976.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.44% แตะที่ 94.15 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่า จะลดความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมันทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาสูงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้ลดการถือครองสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์การเมืองระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือเริ่มส่งสัญญาณคลี่คลาย ภายหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่การจัดการประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จอง อึน จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์ ตามที่มีการกำหนดไว้ แม้ว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเขาเพิ่งประกาศยกเลิกการประชุมดังกล่าว โดยอ้างถึงท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์จากเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ การเปลี่ยนท่าทีของปธน.ทรัมป์มีขึ้นหลังจากที่ทางฝั่งเกาหลีเหนือได้แสดงความตั้งใจที่จะหันหน้าเจรจากับสหรัฐอีกครั้ง โดยนายคิม คเย กวาน รมช.ต่างประเทศเกาหลีเหนือ และเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือที่ทำหน้าที่เจรจากับสหรัฐ กล่าวว่า เกาหลีเหนือเล็งเห็นถึงความพยายามของปธน.ทรัมป์ในการจัดประชุมสุดครั้งนี้ และเกาหลีเหนือเปิดกว้างสำหรับการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเมื่อใด หรือด้วยวิธีการใดก็ตาม