ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนจนถึงวันที่ 30 ก.ย. บีเอชพีผลิตสินแร่เหล็กได้ 61.315 ล้านตัน จากสิทธิในการทำเหมือง (Mining Interests) ในเวสเทิร์น ออสเตรเลียน ซึ่งเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบรายไตรมาสในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ยอดขายของบริษัทยังคงใกล้เคียงกับปริมาณการผลิต
นายแอนดูรว์ แมคเคนซี ประธานบีเอชพีกล่าวว่า "บีเอชพี บิลลิตันยังคงดำเนินงานต่อไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการผลิตและต้นทุนค่าใช้จ่ายสำหรับทั้งปี หลังความสามารถในการดำเนินงานของบริษัทมีความแข็งแกร่งในไตรมาสนี้"
บีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองแร่เหล็กยักษ์ใหญ่ที่มีสัดส่วนการผลิตเป็นอันดับ 3 ของโลก ได้ปรับเพิ่มการผลิตอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับริโอ ทินโต และ Vale จากบราซิลซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง ขณะที่อุปทานสินแร่เหล็กทั่วโลกกำลังล้นตลาด และบีบให้ต้นทุนของผู้ผลิตปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ราคาสินแร่เหล็กร่วงลงจากระดับสูงสุดที่เกือบ 200 ดอลลาร์สหรัฐ/ตันในปี 2554 สู่ระดับที่คาดว่าจะอยู่ต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐภายในระยะเวลา 2 ปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน