ภาวะตลาดทองแดงนิวยอร์ก: ทองแดงปิดบวกเล็กน้อย รับตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้าน-ดอลล์อ่อน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 20, 2017 08:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) ขานรับตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งสูงสุดรอบ 1 ปีในเดือนพ.ย. และการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล อย่างไรก็ดี ราคาทองแดงปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากได้รับปัจจัยกดดันจากการที่นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่า ร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้มากเท่าที่รัฐบาลคาดหวังไว้หรือไม่

สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.55 เซนต์ ปิดที่ 3.1515 ดอลลาร์/ปอนด์

การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ถือเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดทองแดงนิวยอร์ก โดยเมื่อสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจะทำให้สัญญาทองแดงที่ซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์นี้มีมูลค่าที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

ตลาดทองแดงได้รับปัจจัยหนุนหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ย. แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี สวนทางคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากการสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยว ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี

ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.297 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 1.250 ล้านยูนิต

ทองแดงเป็นที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์จึงมีอิทธิพลต่อตลาดทองแดง

ขณะเดียวกัน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้าย ด้วยคะแนนเสียง 227 ต่อ 203 เสียง ก่อนที่วุฒิสภาจะลงมติในช่วงเช้าของวันพุธที่ 20 ธ.ค.ตามเวลาไทย

หากสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาพร้อมใจกันอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ก็จะส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สามารถลงนามรับรองเป็นกฎหมายได้อย่างเร็วที่สุดในวันนี้ และถือเป็นการทำตามคำสัญญาของเขาที่จะมอบการปรับลดภาษีเป็นของขวัญวันคริสต์มาสแก่ชาวอเมริกัน

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกังวลว่าร่างกฎหมายดังกล่าว อาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ไม่มากเท่าที่รัฐบาลคาดหวังไว้ และอาจจะไม่สามารถรองรับผลกระทบในอนาคตที่เกิดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่นักลงทุนอีกจำนวนหนึ่งมองว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้เอื้อประโยชน์อย่างมากต่อบริษัทเอกชนรายใหญ่และกลุ่มคนรวย แต่มีผลกระทบในด้านบวกไม่มากนักต่อกลุ่มชนชั้นกลาง

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตากระทรวงพาณิชย์สหรัฐเตรียมเปิดเผยการประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ประจำไตรมาส 3/2560 ในวันพรุ่งนี้ ส่วนการประมาณการครั้งที่ 2 ซึ่งได้เปิดเผยไปเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า GDP ขยายตัวที่ระดับ 3.3% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 3.0%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ