ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวในทิศทางแตกต่างกัน โดยสัญญาล่วงหน้าข้าวสาลีและข้าวโพดปิดบวกเนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อเพื่อชดเชยชอร์ตเซล หลังจากที่ราคาของธัญพืชทั้งสองร่วงลงแตะจุดต่ำสุดเป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.29% แตะที่ 3.4925 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.เพื่มขึ้น 1.75 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 4.0425 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.25 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 9.9075 ดอลลาร์/บุชเชล
นอกจากนี้ ราคาข้าวสาลีที่ปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ ยังได้รับแรงหนุนจากโครงการจัดซื้อของอียิปต์ ซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับปริมาณอุปทานของข้าวสาลีในตลาดโลก
ทั้งนี้ ราคาข้าวสาลีที่ร่วงลงนั้นมีสาเหตุมาจากปริมาณผลผลิตจำนวนมากทั้งในสหรัฐและประเทศอื่นๆ รวมถึงการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐที่จำกัดการส่งออกข้าวสาลีของสหรัฐ เพราะผู้นำเข้าต่างชาติต้องเผชิญกับราคาข้าวสาลีส่งออกที่สูงกว่าเดิม
ด้านราคาข้าวโพดนั้นปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังได้รับแรงหนุนจากราคาข้าวสาลีที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะข้าวโพดและข้าวสาลีมักมีการซื้อขายสลับกันไปเพื่อนำไปใช้สำหรับเลี้ยงปศุสัตว์ อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวโพดยังคงถูกจำกัดด้วยสต็อกผลผลิตภายในประเทศจำนวนมาก ประกอบกับข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ที่ระบุว่า การเก็บเกี่ยวข้าวโพดเป็นไปตามกำหนดแล้ว หลังจากที่การเก็บเกี่ยวต้องล่าช้าไปในช่วงต้นฤดูเก็บเกี่ยว
USDA ระบุว่า การเก็บเกี่ยวข้าวโพดทั่วทั้งประเทศนั้นเสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 61% ใกล้เคียงกับปริมาณการเก็บเกี่ยวโดยเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 62%
ด้านราคาถั่วเหลืองที่ร่วงลงในช่วงแรกของการซื้อขาย ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมากจากสัญญาน้ำมันปาล์มของมาเลเซียที่ร่วงลง อย่างไรก็ตาม ราคาถั่วเหลืองดีดตัวขึ้นภายหลังจากที่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลของ USDA ที่ระบุว่า จีนได้นำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐปริมาณกว่า 516,000 ตัน
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันถั่วเหลืองที่ร่วงลงยังคงส่งผลกระทบต่อตลาดถั่วเหลือง แม้ราคาน้ำมันพืชที่สูงขึ้นจะช่วยพยุงราคาถั่วเหลืองไว้ส่วนหนึ่ง แต่ราคาน้ำมันถั่วเหลืองที่อ่อนตัวลงไปกว่า 0.5% เมื่อวันอังคารก็ยังคงเป็นปัจจัยที่ฉุดราคาถั่วเหลืองอยู่