ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) สัญญาธัญพืชปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยสัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวขึ้นราว 1% หลังราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกือบ 6% ช่วยหนุนภาคสินค้าโภคภัณฑ์ให้ฟื้นตัวอีกครั้งหลังร่วงลงอย่างหนักในวันก่อนหน้า
ด้านสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นในระดับปานกลาง หลังได้รับแรงหนุนจากรายงานปริมาณการแปรรูปถั่วเหลืองประจำเดือนในสหรัฐที่แข็งแกร่ง
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 4.25 เซนต์ หรือ 1.26% ปิดที่ 3.415 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ หรือ 1.27% ปิดที่ 3.99 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 5.25 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 9.895 ดอลลาร์/บุชเชล
ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นเกือบ 6% เป็นปัจจัยที่ทำให้สัญญาธัญพืชปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากมุมองที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะมีมติลดกำลังการผลิตในการประชุมในเดือนนี้
สัญญาข้าวสาลี ยังได้รับแรงหนุนจากสภาพอากาศแห้งบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี และบางส่วนของที่ราบทางใต้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตข้าวสาลีในฤดูหนาวปี 2560 ที่ปลูกลงดินไปแล้วกว่า 94% ตามรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA)
ด้านสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นในระดับปานกลาง หลังรายงานจากสมาคมแปรรูปถั่วเหลืองของสหรัฐ (NOPA) ระบุว่า ในเดือนต.ค. ที่ผ่านมา มีการนำถั่วเหลืองไปแปรรูปราว 164.6 ล้านบุชเชล นับเป็นการแปรรูปถั่วเหลืองมากที่สุดเป็นอันดับสาม
สัญญาถั่วเหลืองยังได้รับแรงหนุนจากภาคการส่งออกอีกด้วย โดย USDA รายงานว่า ยอดส่งออกถั่วเหลืองในสัปดาห์นี้จนถึง ณ ปัจจุบัน มีปริมาณมากกว่า 700,000 ตัน