ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOTข้าวสาลีพุ่งกว่า 1.8% จากแรงซื้อชดเชยชอร์ตเซล

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 6, 2017 08:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวไร้ทิศทาง โดยสัญญาข้าวสาลีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1.8% ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์จากแรงซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซลของนักลงทุน

สัญญาข้าวโพดปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันแล้ว เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากสัญญาข้าวสาลี ส่วนสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงเนื่องด้วยแรงขายเก็งกำไร

สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 เซนต์ หรือ 0.42% ปิดที่ 3.6125 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 7.75 เซนต์ หรือ 1.85% ปิดที่ 4.2625 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.75 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 10.125 ดอลลาร์/บุชเชล

สัญญาข้าวสาลีปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 ในการซื้อขาย 5 รอบล่าสุด โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อเพื่อเก็งกำไร แม้ว่ายังคงมีปริมาณข้าวสาลีอยู่มากทั้งในและต่างประเทศ

ส่วนตลาดถั่วเหลืองขณะนี้กำลังพิจารณาตัวเลขผลผลิตในอเมริกาใต้ที่คาดว่าจะอุดมสมบูรณ์ ประกอบกับแนวโน้มสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยการเพาะปลูก ซึ่งรวมถึงภัยฝนตกหนักที่ส่งผลให้การเพาะปลูกในอาร์เจนตินาต้องหยุดชะงัก

ตลาดค้าธัญพืชบัวโนสไอเรสคาดการณ์ว่า เกษตรกรในอาร์เจนตินาจะมีการเพาะปลูกถั่วเหลืองกินพื้นที่ 19.3 ล้านเฮกตาร์ ซึ่งลดลงจากที่เคยได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ 19.6 ล้านเฮกตาร์ เนื่องจากเกิดสภาพอากาศแห้งแล้งในจังหวัดบัวโนสไอเรสทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา

การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์ตลาดสหรัฐน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความสูญเสียจากเงินเฟ้อ ก็ได้หนุนสัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีเช่นกัน โดยทั่วไปแล้วข้าวสาลีนั้นเป็นสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากความผันผวนของเงินดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ