ราคาน้ำมัน WTI ร่วง หลังเฟดยุติ QE, อุปทานน้ำมันสหรัฐแตะระดับสูง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 30, 2014 22:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง เพราะถูกกดดันจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ในการประชุมครั้งล่าสุด นอกจากนี้ อุปทานน้ำมันสหรัฐที่อยู่ในระดับสูงก็เป็นปัจจัยถ่วงภาวะการซื้อขายเช่นกัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 1.26 ดอลลาร์ หรือ 1.5% แตะที่ 80.94 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลง เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ภายหลังเฟดได้ประกาศยุติมาตรการ QE ที่ดำเนินการมา 6 ปี โดยถึงแม้เฟดระบุว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นระยะเวลานานหลังจากสิ้นสุดมาตรการ QE แต่นักลงทุนก็ยังขานรับมุมมองในเชิงบวกโดยรวมของเฟดเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ และมีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในกลางปี 2558

ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ดอลลาร์จะแข็งค่าเมื่อสภาพเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้กับสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมัน เนื่องจากสินค้าโภคภัณฑ์ที่ซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์จะมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากอุปทานน้ำมันสหรัฐที่อยู่ในระดับสูง โดยวานนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล แตะ 379.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งแม้เพิ่มขึ้นไม่มากเท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง

ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งน้ำมัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 776,000 บาร์เรล สู่ระดับ 21.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ