ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดเพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หลังจีนลดดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday November 22, 2014 07:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 พ.ย.) หลังจากที่จีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจุดประกายความหวังว่าความต้องการน้ำมันจากจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลก จะเพิ่มสูงขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 76.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. และช่วยให้สัญญาน้ำมันดิบที่ตลาด NYMEX ปรับตัวขึ้น 0.9% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึ้นได้เป็นสัปดาห์แรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 80.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.เช่นกัน สำหรับตลอดสัปดาห์ สัญญาเบรนท์ปรับตัวขึ้น 1.2%

ธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.4% สู่ระดับ 5.6% โดยมีผลตั้งแต่วันเสาร์นี้

การประกาศลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนก.ค. 2555 ซึ่งถือเป็นความพยายามล่าสุดของทางการจีนในการเดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ ภายหลังจากที่ได้มีการอัดฉีดสภาพคล่อง และลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์แบบกำหนดเป้าหมาย

เศรษฐกิจจีนอยู่ภายใต้แรงกดดัน โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 7.3% เมื่อเทียบรายปีในไตรมาสสาม ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552

ด้วยเหตุที่จีนเป็นประเทศที่บริโภคน้ำมันมากเป็นอันดับสองของโลก เทรดเดอร์จึงเชื่อว่า การลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และสนับสนุนให้อุปสงค์น้ำมันดิบในประเทศเพิ่มสูงขึ้น

ตลาดจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ที่กรุงเวียนนาในวันที่ 27 พ.ย.นี้อย่างใกล้ชิด โดยโอเปคเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบในสัดส่วนถึงหนึ่งในสามของโลก

แบงก์ ออฟ อเมริกา คาดการณ์ว่า โอเปคอาจปรับลดเป้าหมายการผลิตลงไม่เกิน 500,000 บาร์เรล/วัน โดยชี้ว่าหลายประเทศ เช่น ซาอุดิอาระเบีย อาจพอใจกับราคาน้ำมันที่ลดลง เพื่อที่จะได้แข่งขันกับการลงทุนในหินน้ำมันในอเมริกาเหนือ

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 พ.ย. เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล แตะ 381.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 780,000 บาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 718,000 บาร์เรล สู่ระดับ 23.24 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล แตะ 204.6 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 114.8 ล้านบาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ