สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 96 เซนต์ ปิดที่ 43.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปิดเผยในรายงานเมื่อวานนี้ว่า การผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปคคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 850,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้
ขณะที่สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 มี.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 9.366 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2526
นอกจากนี้ โอเปกยังได้คาดการณ์ในรายงานล่าสุดว่า ผลผลิตน้ำมันของสหรัฐจะถูกกระทบในปลายปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่า โอเปกจะรอให้เลยการประชุมในเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อดูว่าการทรุดตัวของราคาน้ำมันได้เริ่มส่งผลกระทบต่อการผลิต Shale Oil ของสหรัฐหรือไม่
การทรุดตัวของราคาน้ำมันถึงครึ่งนี้นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2014 ได้ทำให้บริษัทน้ำมันลดการใช้จ่ายในการผลิตน้ำมัน รวมทั้งลดการขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐ ส่งผลให้มีการคาดว่าผลผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะชะลอตัวลง
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่โอเปกส่งสัญญาณใรการคงกำลังการผลิตในการประชุมเดือนมิ.ย. ขณะที่โอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะไม่เพิ่มขึ้นในปีนี้