สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.51 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งสหรัฐ (AAA) ออกรายงานคาดการณ์ว่า ความต้องการเชื้องเพลิงในสหรัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะคาดว่าจำนวนประชาชนที่จะนำรถยนต์ออกไปขับขี่ในช่วงเทศกาลวันหยุด Memorial Day จะมีมากที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งเทศกาลดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้ไปจนถึงวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.
ทั้งนี้ AAA คาดว่า จะมีชาวอเมริกันราว 37.2 ล้านคนขับรถในระยะทาง 50 ไมล์หรือมากกว่าในช่วงวันหยุดดังกล่าว ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.7% จากปีที่แล้วที่มีประชาชนเดินทาง 35.3 ล้านคน และถือเป็นระดับสุงสุดในรอบ 10 ปี
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 482.2 ล้านบาร์เรล จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 241,000 บาร์เรล สู่ระดับ 60.4 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 223.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2014 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 546,000 บาร์เรล สู่ระดับ 127.7 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล