ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดพุ่ง 80 เซนต์ หลังจำนวนแท่นขุดเจาะลดลงต่อเนื่อง

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday October 3, 2015 08:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี ซึ่งบ่งชี้ว่าผลผลิตน้ำมันในสหรัฐกำลังหดตัว

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 45.54 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับตลอดสัปดาห์ สัญญาปรับตัวลงราว 0.4%

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ดีดขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 48.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ทั้งสัปดาห์ สัญญาร่วงลงไปประมาณ 1%

เบเกอร์ ฮิวจส์ บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลด้านน้ำมัน รายงานในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงอีก 26 หลุม เหลือ 614 หลุม ณ สิ้นสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 แล้ว และหากรวมแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ตัวเลขแท่นขุดเจาะลดลงทั้งสิ้น 29 หลุม มาอยู่ที่ 809 หลุม

ข้อมูลแท่นขุดเจาะเป็นปัจจัยหนุนตลาด เนื่องจากเทรดเดอร์เชื่อว่า บริษัทน้ำมันของสหรัฐยังคงเดินหน้าปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ตามทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง

โดยข้อมูลดังกล่าวได้รับการเปิดเผยหลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐลดลงจาก 40,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 9.096 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว

ก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลแท่นขุดเจาะจากเบเกอร์ ฮิวจส์นั้น สัญญาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลดลง โดยร่วงลงไปต่ำกว่า 44 ดอลลาร์ เนื่องจากข้อมูลจ้างงานที่ชะลอตัวในเดือนที่แล้ว ได้ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความต้องการพลังงาน

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008

ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ส่วนอัตราการว่างงาน คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ