สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI อ่อนตัวลงในวันนี้ โดยปรับตัวต่ำกว่าระดับ 42 ดอลลาร์ จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่ผู้ผลิตยังคงเดินหน้าทำการผลิต ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
ณ เวลา 20.26 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ขยับลง 6 เซนต์ หรือ 0.14% สู่ระดับ 41.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำมันล้นตลาดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยได้ดิ่งลงถึง 70% ในช่วงปี 2014 ถึงต้นปีนี้
บริษัท รอยัล ดัทช์ เชลล์ เปิดเผยว่า กำไรในไตรมาส 2 ดิ่งลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำ
เชลล์เปิดเผยว่า มีกำไรสุทธิ 1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.2 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่มีกำไร 3.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
โกลด์แมน แซคส์ระบุในรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบจะยังคงทรงตัวอยู่ในช่วง 45-50 ดอลลาร์/บาร์เรล จนถึงช่วงกลางปีหน้า โดยสถานการณ์อุปสงค์และอุปทานโลกยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
รายงานได้ระบุถึงปัจจัยต่างๆที่หักล้างกันเองจนทำให้ราคาแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนถึงปีหน้า
"ปัจจัยพื้นฐานของน้ำมันยังคงมีความเปราะบาง และทำให้เกิดพลังที่หักล้างกัน เช่น การเกิดไฟป่าในแคนาดาได้ช่วยหักล้างการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของอิหร่าน, อุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัวลงของจีนและอินเดียในครึ่งหลังของปีนี้ จะช่วยหักล้างการผลิตน้ำมันที่ลดลงในไนจีเรีย และเวเนซุเอลา นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันกลั่นที่เพิ่มขึ้นก็ได้หักล้างการลดลงของปริมาณน้ำมันดิบ"
"ในมุมมองของเรา จะต้องมีหลายปัจจัย เช่น การชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมันโลก, สต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของจีน และการเพิ่มการผลิตน้ำมันในลิเบีย และไนจีเรีย จึงจะทำให้ราคาน้ำมันร่วงลงต่ำกว่า 35 ดอลลาร์" รายงานระบุ