สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ ก่อนที่จะทราบผลการประชุมระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซีย โดยการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.45 ดอลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 45.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.46 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 47.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมัน WTI ดิ่งลงไปเกือบ 4% เมื่อวันศุกร์ ขณะเดียวนักลงทุนจับตาการประชุมระหว่างกลุ่มโอเปกและรัสเซียที่มีกำหนดจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ นอกรอบการประชุมพลังงานระหว่างประเทศ (IEF) ที่แอลจีเรีย โดยที่ประชุมจะหารือการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน
นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.พลังงานรัสเซีย ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมกับกลุ่มโอเปกเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ดี บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซียจำนวน 5 แห่ง ซึ่งมีสัดส่วนตลาดถึง 3 ใน 4 ในรัสเซีย ระบุว่า ทางบริษัทจะยังคงเพิ่มกำลังการผลิตในปีหน้า หลังจากผลิตน้ำมันแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทางด้านอิหร่านไม่คาดว่าการประชุมครั้งนี้จะส่งผลให้ที่ประชุมบรรลุข้อตกลงจำกัดการผลิตน้ำมัน โดยนายบิจาน ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันอิหร่าน กล่าวว่า นานาประเทศไม่ควรคาดหวังมากนักต่อผลการประชุมดังกล่าว
"นี่เป็นเพียงการประชุมเพื่อปรึกษาหารือ และนี่เป็นสิ่งที่เราคาดหวังได้มากที่สุดจากการประชุมดังกล่าว ซึ่งการเจรจาระหว่างกลุ่มโอเปกจะสามารถนำไปใช้ในการประชุมสุดยอดของโอเปกที่กรุงเวียนนาในเดือนพ.ย." รมว.น้ำมันอิหร่านกล่าว
นอกจากนี้ ผลสำรวจล่าสุดของ CNBC Oil Survey พบว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าการประชุมดังกล่าวจะส่งผลให้ที่ประชุมบรรลุข้อตกลงจำกัดการผลิตน้ำมัน แต่ถ้าหากที่ประชุมสามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ก็จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ผู้ถูกสำรวจ 65% ไม่คาดว่าจะมีการทำข้อตกลงในการประชุมดังกล่าว ขณะที่ 52% ระบุว่า หากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันสามารถบรรลุข้อตกลงตรึงกำลังการผลิต ก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาน้ำมัน