สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่าสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในประเด็นปรับลดกำลังการผลิต ในการประชุมเดือนหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 78 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 49.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 81 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 49.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า สมาชิกโอเปกอาจจะไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการปรับลดกำลังการผลิต หลังจากอิรัก ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มโอเปก ระบุว่า อิรักไม่ต้องการลดการผลิตน้ำมัน เนื่องจากต้องการมีรายได้จากการขายน้ำมันเพื่อใช้ในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS)
ทั้งนี้ การที่อิรัก ไนจีเรีย และลิเบียต่างก็แสดงท่าทีไม่ต้องการลดกำลังการผลิต ขณะที่เวเนซุเอลา และอินโดนีเซียก็มีแนวโน้มดังกล่าวเช่นเดียวกัน ส่งผลให้นักลงทุนไม่คาดว่าการปรับลดกำลังการผลิตของสมาชิกที่เหลือจะช่วยลดปริมาณน้ำมันในตลาดได้มากนัก
ทางด้านสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์รายงานว่า ผู้แทนรัสเซียประจำกลุ่มโอเปกกล่าวว่า การลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงนั้น ไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว โดยทำสถิติปรับตัวลง 6 สัปดาห์ในรอบ 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบลดลง 553,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล