สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกคืนนี้ (12 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้เริ่มปรับลดกำลังการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 53.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 56.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยได้แรงหนุนจากสัญญาณที่เป็นบวกว่า กลุ่มโอเปกได้เริ่มปรับลดกำลังการผลิต โดยนายคาหลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า ซาอุดิอาระเบียได้เริ่มปรับลดกำลังการผลิตแล้ว ขณะที่รมว.พลังงานคูเวตกล่าวว่า คูเวตได้ปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงของโอเปกแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบียคาดว่า ตลาดน้ำมันจะอยู่ในภาวะตึงตัวในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า และคาดว่าอุปสงค์สำหรับน้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้
ทางด้านนายโมฮัมหมัด ซานูซี บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มโอเปก กล่าวว่า เขายังคงมีความมั่นใจว่าสมาชิกโอเปก และนอกกลุ่มโอเปกจะปฏิบัติตามข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อผลักดันราคาให้ดีดตัวขึ้น
"ผมยังคงมีความมั่นใจมากจากที่ผมเห็นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา" นายบาร์คินโดกล่าว
เขากล่าวว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันได้ให้ความร่วมมือในระดับสูง
ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน