สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจต่อการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 64 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 52.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 56 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 55.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
แม้ว่าซาอุดิอาระเบีย และสมาชิกบางประเทศในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระบุว่าได้มีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะให้ความร่วมมือปรับลดกำลังการผลิตเพียง 50% หรือมากที่สุด 80% และแม้มีการปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลง แต่การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ รวมทั้งจากไนจีเรียและลิเบีย ซึ่งเป็นสมาชิกโอเปกที่ได้รับการยกเว้นจากข้อตกลง ก็จะลดผลบวกของการปรับลดกำลังการผลิตจากประเทศอื่นๆ
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 483.1 ล้านบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 7.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 8.4 ล้านบาร์เรล
ด้านบริษัท เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์นี้ มีจำนวนลดลง 7 แท่น สู่ระดับ 522 แท่น ซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 11 สัปดาห์ แต่ก็ยังมากกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีแท่นขุดเจาะน้ำมันจำนวน 515 แท่น