ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 47 เซนต์ หลังสหรัฐขุดเจาะน้ำมันเพิ่มขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 24, 2017 06:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด และยังได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันได้ปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตเป็นอย่างดี

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 52.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 55.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ม.ค.นั้น มีจำนวนเพิ่มขึ้น 29 แท่น สู่ระดับ 551 แท่น

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่า 6% นับตั้งแต่กลางปี 2016 สู่ระดับสูงสุดในช่วงปลายปี 2014 ซึ่งขณะนั้นปริมาณน้ำมันดิบจำนวนมากของสหรัฐได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกทรุดตัวลง

ทั้งนี้ ตัวเลขการขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ ได้สกัดปัจจัยบวกจากการที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันได้ปฏิบัติตามข้อตกลงการปรับลดการผลิตน้ำมัน

นายคาหลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า การปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตได้เป็นไปอย่างยอดเยี่ยม และเชื่อว่าตลาดกำลังจะกลับสู่ความสมดุลอีกครั้ง

กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ โดยผู้ผลิตได้ตกลงให้มีการใช้มาตรการติดตามความคืบหน้าของแต่ละประเทศในเรื่องการปรับลดกำลังการผลิต

นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะเป็นการเปิดเผยตัวเลขจากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ส่วนในวันพุธจะเป็นการเปิดเผยตัวเลขจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ