สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดเหนือระดับ 20,000 จุดติดต่อกัน 2 วันทำการ ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและอุปสงค์พลังงาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการปรับลดกำลังการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 53.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 56.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นขานรับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 20,000 จุดติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิต โดยรัฐมนตรีกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก ระบุว่า ขณะนี้ ประเทศผู้ผลิตน้ำมันสามารถลดการผลิตน้ำมันจำนวน 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ใกล้เคียงกับระดับ 1.8 ล้านบาร์เรล/วันที่ตกลงกันไว้
ทางด้านอิรักได้ปรับลดการผลิตน้ำมันลง 180,000 บาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะปรับลดลงอีก 30,000 บาร์เรลต่อวันภายในสิ้นเดือนนี้
ทั้งนี้ ความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐและความคืบหน้าด้านบวกจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และใกล้เคียงกับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา