สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกัน 6 สัปดาห์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 9 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 53.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 22 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 55.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจาก EIA รายงานเมื่อคืนนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 9.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 518.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันนานถึง 6 สัปดาห์
สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 702,000 บาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 752,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 689,000 บาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 696,000 บาร์เรล
รายงานสต็อกน้ำมันดิบของ EIA เป็นไปในทิศทางเดียวกับรายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 9.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 3.5 ล้านบาร์เรล