สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) ขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ส่งสัญญาณให้ความร่วมมือลดกำลังการผลิตมากขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 54.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 56.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากนายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปก เปิดเผยว่า สมาชิกโอเปกมีความมุ่งมั่นที่จะให้ความร่วมมือลดกำลังการผลิตมากขึ้น หลังจากที่ข้อมูลบ่งชี้การให้ความร่วมมือในระดับสูงกว่า 90% ในเดือนม.ค. เพื่อลดปริมาณน้ำมันจำนวนมากในตลาด
ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ปีที่แล้ว กลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในกลางปีนี้
นอกจากนี้ นายบาร์คินโดคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันในตลาดโลกจะลดลงในปีนี้ โดยเขากล่าวว่า "สต็อกน้ำมันในกลุ่มประเทศ OECD (องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา) ได้ลดลงในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว และเราคาดว่าสต็อกจะลดลงต่อไปในปีนี้"
ทางด้านซิตี้ กรุ๊ปออกรายงานคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันอาจแตะที่ระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในปลายปีนี้ ขณะที่อุปสงค์และอุปทานปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุลในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า