สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ รวมทั้งรายงานคาดการณ์ของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ในสหรัฐ จะเพิ่มขึ้นอีกในเดือนหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 52.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 54.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐ โดยล่าสุด EIA คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน ในเดือนหน้าจะเพิ่มขึ้น 124,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 5.19 ล้านบาร์เรล/วัน
การคาดการณ์ของ EIA มีความสอดคล้องกับข้อมูลอื่นๆที่บ่งชี้ถึงการเพิ่มกำลังการผลิตใจสหรัฐ โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 เม.ย. มีจำนวนเพิ่มขึ้น 11 แท่น สู่ระดับ 683 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 13 ติดต่อกัน
รายงานระบุว่า สหรัฐมีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.24 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้สหรัฐเป็นประเทศที่มีการผลิตน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากรัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวลงหลังจากนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมีการหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
นายอัล-ฟาลีห์กล่าวว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะพิจารณาภาวะตลาดที่คาดการณ์ไว้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า และจะทำการตัดสินใจอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการขยายเวลาในการลดกำลังการผลิต
ทั้งนี้ สมาชิกโอเปกจะจัดการประชุมในวันที่ 25 พ.ค. เพื่อตัดสินใจว่าจะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตเกินเดือนมิ.ย.หรือไม่
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย