ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงวันนี้ หลัง"โกลด์แมน แซคส์"หั่นคาดการณ์ราคาน้ำมัน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 30, 2017 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากที่โกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในปีนี้

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนมีความผิดหวังต่อการตัดสินใจของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน โดยที่ไม่มีการปรับลดการผลิตมากขึ้น ซึ่งจะไม่สามารถลดปริมาณน้ำมันในตลาดโลก หลังจากเผชิญภาวะน้ำมันล้นตลาดมาเป็นเวลานานเกือบ 3 ปี

ณ เวลา 17.19 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 28 เซนต์ หรือ 0.56% สู่ระดับ 49.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

โกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในปีนี้ ขณะชี้ราคาในตลาดซื้อขายล่วงหน้าปี 2018-2019 ควรอยู่ต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ โดยอยู่ที่ 45-50 ดอลลาร์

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบ WTI จะอยู่ที่ 52.39 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ ลดลงจากระดับ 54.80 ดอลลาร์/บาร์เรลที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบเบรนท์จะอยู่ที่ 55.39 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ ลดลงจากระดับ 56.76 ดอลลาร์/บาร์เรลที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้

โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ราคาสัญญาน้ำมันในตลาดซื้อขายล่วงหน้าสำหรับปี 2018-2019 จำเป็นต้องอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ดอลลาร์ เพื่อให้ผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐไม่มีแรงจูงใจที่จะทำการผลิตมากขึ้น

โกลด์แมน แซคส์เตือนว่า ต้นทุนการผลิตน้ำมันที่ลดลงของสหรัฐ จะทำให้ปริมาณน้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า และเมื่อโอเปกสิ้นสุดช่วงเวลาปรับลดกำลังการผลิต การผลิตน้ำมันของโอเปกและสหรัฐก็จะเพิ่มขึ้น 1.0-1.3 ล้านบาร์เรล/วัน ระหว่างปี 2018-2020

เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 2 แท่น สู่ระดับ 722 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015 และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 19 ติดต่อกัน

การขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้น บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นเวลา 12 เดือนติดต่อกัน ซึ่งจะช่วยให้การผลิตน้ำมันของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ