สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ ลิเบีย และไนจีเรีย อาจจะขัดขวางความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการปรับลดกำลังการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 97 เซนต์ หรือ 2.2% ปิดที่ 43.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 89 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 46.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด รวมทั้งความกังวลที่ว่าการเพิ่มกำลังการผลิตของสหรัฐ รวมทั้งลิเบีย และไนจีเรีย ซึ่งเป็น 2 ประเทศสมาชิกโอเปกที่ได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงการปรับลดการผลิตน้ำมันนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อความพยายามของกลุ่มโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐมาจากรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ ผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ ซึ่งระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 6 แท่น สู่ระดับ 747 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015 และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 22 ติดต่อกัน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ลิเบียผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 885,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากการปิโตรเลียมของลิเบียสามารถบรรลุข้อตกลงกับบริษัทวินส์เตอร์แชลล์ ของเยอรมนี
ทางด้านไนจีเรียได้วางแผนที่จะส่งออกน้ำมันในเดือนส.ค.ในปริมาณ 226,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากระดับของเดือนก.ค.ที่ 164,000 บาร์เรลต่อวัน
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย