สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันนี้ โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 21.23 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.85% สู่ระดับ 45.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากแตะระดับ 45.38 ดอลลาร์ในช่วงแรก ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
ราคาน้ำมันได้ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนในสัปดาห์ที่แล้ว แต่หลังจากนั้นได้ดีดตัวขึ้นมากกว่า 6% และปรับตัวขึ้นเป็นเวลา 6 วันติดต่อกัน ซึ่งเป็นช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.
EIA รายงานว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐลดลง 100,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 9.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 มิ.ย. โดยเป็นการปรับลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2016
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าที่คาดไว้ ก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาด
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในไตรมาส 3 ท่ามกลางปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐ ลิเบีย และไนจีเรีย
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่าราคาน้ำมัน WTI จะมีค่าเฉลี่ยที่ระดับ 47.50 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 3 โดยลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 55.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากลิเบีย และไนจีเรีย ซึ่งเป็น 2 ชาติสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต จะหักล้างกับการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกในไตรมาส 3
อย่างไรก็ดี โกลด์แมน แซคส์ยังคงแสดงความเชื่อมั่นต่อตลาดน้ำมัน โดยมองว่าอุปสงค์ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่โอเปกอาจทำการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น และกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันของสหรัฐอาจลดการผลิต หากเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น