สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กำลังหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิต ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 49.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 55.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากนายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กล่าวว่า สมาชิกโอเปกกำลังปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันให้เกินกว่าเดือนมี.ค.ปีหน้า
นายบาร์คินโดยังกล่าวว่า อาจมีประเทศผู้ผลิตน้ำมันจำนวนมากขึ้นที่เข้าร่วมการปรับลดกำลังการผลิต โดยจะมีการประชุมกันในวันที่ 30 พ.ย. นอกจากนี้ นายบาร์คินโดยังเปิดเผยว่า สมาชิกโอเปก และผู้ผลิตน้ำมันรายอื่น อาจจะต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อรับประกันว่าตลาดจะอยู่ในภาวะสมดุลในระยะยาว
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ซาอุดิอาระเบียจะยังคงเดินหน้าควบคุมการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมัน รวมทั้งรายงานจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ ซึ่งระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 2 แท่น สู่ระดับ 748 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ โดย EIA จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนในตลาดน้ำมันยังจับตาผลพวงเกี่ยวการลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นอิสระของชาวเคิร์ดในอิรัก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายน้ำมันดิบประมาณ 500,000 บาร์เรล/วัน
ขณะเดียวกันนักลงทุนยังรอดูด้วยว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะตัดสินใจอย่างไรเกี่ยวกับอิหร่าน หลังสื่อสหรัฐรายงานว่า ปธน.ทรัมป์จะไม่ลงนามรับรองข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ข้อตกลงดังกล่าวล้มเหลวในท้ายที่สุด
ทั้งนี้ อิหร่านเป็นสมาชิกกลุ่มโอเปก และเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายสำคัญในภูมิภาคตะวันออกกลาง