ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 37 เซนต์ หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 16, 2017 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง ขณะที่การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 55.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.ปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 61.87 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ หลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 894,000 บาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 919,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 799,000 บาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ รายงานของ EIA ยังระบุว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.65 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยกดดันจากการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันราว 100,000 บาร์เรล/วันในปีนี้ และปีหน้า สู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน และ 1.3 ล้านบาร์เรล/วันตามลำดับ

นักลงทุนจับตาการประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้ที่กรุงเวียนนา ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่า หากสมาชิกโอเปกเห็นพ้องกันเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในไตรมาสแรกของปีหน้า ก็จะส่งผลให้ตลาดเผชิญภาวะขาดแคลนน้ำมันราว 830,000 บาร์เรล/วันในปีหน้า เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะขาดแคลน 310,000 บาร์เรล/วัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ