ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.66 หลังสต็อกเบนซินสหรัฐพุ่งสวนทางน้ำมันดิบ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 7, 2017 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลงก็ตาม

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.66 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 55.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.64 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 61.22 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก หลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซิน พุ่งขึ้น 6.78 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 220.9 ล้านบาร์เรล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ธ.ค. ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 129.4 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันดิบ ลดลง 5.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 448.4 ล้านบาร์เรล แต่ก็ไม่สามารถพยุงราคาน้ำมันให้ปิดตลาดในแดนบวกได้

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.5 ล้านบาร์เรล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ธ.ค. แต่ สต็อกน้ำมันเบนซิน พุ่งขึ้น 9.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น เพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 2 แท่น สู่ระดับ 749 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. และสูงกว่าระดับ 477 แท่นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ขณะเดียวกันรายงานระบุว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 9.68 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 2559 และใกล้กับระดับการผลิตของรัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ