สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของปี 2560 โดยราคาสัญญาน้ำมันดิบปิดเหนือระดับ 60 ดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองปี เนื่องจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่อุปทานปรับตัวลดลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 0.97% ปิดที่ 60.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 1.07% ปิดที่ 66.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเหนือระดับ 60 ดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2558 หรือในรอบสองปีครึ่ง สำหรับในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 3.3% ปรับขึ้น 5.3% ในเดือนธ.ค. พุ่งขึ้นเกือบ 17% ในไตรมาสสุดท้ายของปี และปรับตัวขึ้น 12.5% ตลอดปี 2560
ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 18% ในปีนี้ กว่า 16% ในไตรมาสสี่ 5.2% ในเดือนธ.ค. และ 0.6% ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สถานการณ์ในตลาดน้ำมันปรับตัวดีขึ้นในรอบปี 2560 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอุปทานล้นตลาดที่บรรเทาเบาบางลง อุปสงค์ที่ปรับตัวขึ้น และข้อตกลงจำกัดการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกและบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ไม่ใช่สมาชิกของโอเปก
สำหรับภาวะการซื้อขายในวันศุกร์ นักวิเคราะห์กล่าวว่า การปรับตัวลดลงอย่างเหนือความคาดหมายของการผลิตน้ำมันและสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐได้หนุนบรรยากาศการซื้อขาย
โดยสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันพฤหัสบดี ขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 ธ.ค. ร่วงลง 4.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงราว 3 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 6 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 ธ.ค.
นอกจากนี้ EIA ยังเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า การผลิตน้ำมันภายในประเทศลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่ระดับ 9.75 ล้านบาร์เรลต่อวัน จาก 9.79 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ก่อนหน้า
ขณะที่รายงานประจำเดือนของ EIA ซึ่งเปิดเผยในวันศุกร์ แสดงให้เห็นว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 46 ปีในเดือนต.ค. แต่ขณะเดียวกันการส่งออกและความต้องการน้ำมันของประเทศก็ปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน
ด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ เปิดเผยในวันศุกร์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานยังคงมีจำนวนเท่าเดิมที่ 747 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซลดลง 2 แท่น มาอยู่ที่ 182 แท่น อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งปี จำนวนแท่นขุดเจาะรวมเพิ่มขึ้น 271 แท่น สู่ระดับ 929
ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงยังได้ช่วยหนุนตลาดน้ำมันเช่นกัน โดยดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.44% แตะที่ 92.195