สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงอย่างหนักในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาโจมตีกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ว่าพยายามผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้นในระยะนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 68.38 ดอลลาร์/บาร์เรล และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นราว 1.5%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 74.06 ดอลลาร์/บาร์เรล และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นราว 2%
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงกว่า 1% และหลุดจากระดับ 68 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความ วิพากษ์วิจารณ์กลุ่มประเทศโอเปกว่าพยายามผลักดันราคาน้ำมันขึ้นในระยะนี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดดีดตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรในช่วงท้ายของการซื้อขาย
ทั้งนี้ ข้อความในทวิตเตอร์ของทรัมป์ระบุว่า "ดูเหมือนโอเปกจะเอาอีกแล้ว แม้ว่าจะมีปริมาณน้ำมันมากมายในทุกที่ ซึ่งรวมถึงในเรือกักเก็บน้ำมันในทะเล แต่โอเปกก็ได้สร้างราคาเทียมของน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างมาก นี่เป็นเรื่องที่ไม่ดี และยอมรับไม่ได้"
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ หลังจากสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียต้องการผลักดันราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นถึงระดับ 80-100 ดอลลาร์
สำหรับข้อมูลล่าสุดที่ส่งผลต่อภาวะการซื้อขายในระหว่างวันนั้น เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 5 แท่น สู่ระดับ 820 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2558
ทางด้านนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า ถึงแม้ราคาน้ำมันดิบได้พุ่งขึ้นอย่างมากในระยะนี้ แต่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ก็ยังไม่ควรชะล่าใจ
"เราจะต้องใช้ความอดทน เราไม่ควรด่วนสรุป เราไม่ควรชะล่าใจ และไม่ควรฟังผู้ที่พูดว่า "ภารกิจสำเร็จแล้ว" ผมคิดว่าเรายังคงมีงานต้องทำรออยู่ข้างหน้า" เขากล่าว