ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดบวก 14 เซนต์ รับคาดการณ์สหรัฐอาจคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 27, 2018 06:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐอาจคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ หลังจากมีสัญญาณว่าสหรัฐอาจจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ชาติมหาอำนาจทำไว้กับอิหร่าน อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบและการผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 68.19 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 74.74 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นหลังจากนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่า เขาคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะตัดสินใจถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ชาติมหาอำนาจทำไว้กับอิหร่านในปี 2558 โดยหากปธน.ทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว ก็จะปูทางให้สหรัฐทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ด้วยการสั่งห้ามการส่งออกน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลง

ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นอีก 5 ดอลลาร์/บาร์เรล หากสหรัฐทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์มีเวลาจนถึงวันที่ 12 พ.ค.ในการตัดสินใจว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ชาติมหาอำนาจทำไว้กับอิหร่านหรือไม่ โดยข้อตกลงฉบับนี้เกิดจากลงนามในปี 2558 ระหว่างอิหร่าน และกลุ่มประเทศ P5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้ P5+1 ผ่อนปรนการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ในขณะที่อิหร่านจะต้องระงับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

กระทั่งเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ปีที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ประกาศไม่ให้การรับรองต่ออิหร่านในการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มีการทำไว้ในปี 2558 โดยระบุว่า อิหร่านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ และมีการละเมิดหลายครั้ง

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวในกรอบแคบๆ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลง 2 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันในสหรัฐพุ่งขึ้น 25% นับตั้งแต่กลางปี 2559 สู่ระดับ 10.54 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้สหรัฐเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากรัสเซีย ซึ่งผลิตน้ำมันเกือบ 11 ล้านบาร์เรล/วัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ