เขากล่าวว่า "ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้น หรือสิ่งที่เกิดขึ้นกับบุคลใดบุคคลหนึ่ง"
ทั้งนี้ สหรัฐได้สั่งห้ามการออกวีซ่าแก่นายโมดีเมื่อปี 2548 เนื่องจากเขามีบทบาทในเหตุการณ์ก่อจลาจลครั้งใหญ่ในรัฐคุชราตเมื่อปี 2545 เป็นเหตุให้ประชาชนกว่า 1,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมที่เป็นชนกลุ่มน้อย ต้องเสียชีวิตลง
อย่างไรก็ตาม นายนิชา บิสวัล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ได้กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า "สหรัฐพร้อมที่จะร่วมงานกับนายโมดี หากเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของอินเดีย"
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นางแนนซี่ พาวเวลล์ เอกอัคราชทูตสหรับประจำอินเดีย ได้เดินทางเข้าพบนายโมดีที่บ้านของเขา ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดีย เพื่อเจรจายุติความบาดหมางที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน
นายโมดี ซึ่งดำรงตำแหน่งมุขมนตรีประจำรัฐคุชราต 3 สมัย ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุจลาจล ทว่า เขากลับปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยังไม่ได้ผ่านการพิพากษาจากศาลใดๆ