ปฎิบัติการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเฮลิคอปเตอร์ทหารได้ลำเลียงทหารนับสิบคนเข้าไปในอาคารของมหาวิทยาลัยซึ่งกลุ่มกบฎได้ใช้เป็นฐานที่มั่น โดยกองกำลังทหารชุดแรกสามารถยึดอาคารมหาวิทยาลัยได้โดยไม่มีการปะทะเนื่องจากไม่มีกลุ่มติดอาวุธอยู่ภายในตัวอาคาร แต่กองกำลังทหารชุดถัดมาได้ปะทะกับกลุ่มติดอาวุธอย่างรุนแรง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และมีผู้บาดเจ็บหลายคน นอกจากนี้ มีรายงานว่าอาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้รับบาดเจ็บ 2 คนด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จังหวัดซาลาฮูดีนเป็นพื้นที่ที่ชาวมุสลิมนิกายสุหนี่อาศัยอยู่อย่างหนาแน่น และเมืองทิกริตก็เป็นเมืองเกิดของซัดดัม ฮุสเซน อดีตผู้นำของอิรัก
ขณะที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า อิหร่านได้ส่งอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน และอุปกรณ์ทางทหารไปยังอิรักอย่างลับๆเพื่อช่วยเหลือฝ่ายรัฐบาลซึ่งนับถือนิกายชีอะห์ ในการรับมือกับการรุกรานของกลุ่มหัวรุนแรงนิกายสุหนี่
นิวยอร์กไทม์สรายงานโดยอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่สหรัฐว่า อิหร่านได้ตั้งศูนย์ควบคุมพิเศษขึ้นที่สนามบินอัล ราชิดในกรุงแบกแดดและได้ส่งโดรนฝูงเล็กๆบินขึ้นเฝ้าระวังเหนือน่านฟ้าอิรัก
นอกจากนี้ อิหร่าน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่นับถือนิกายชีอะห์ ยังได้ส่งอุปกรณ์ทางทหารน้ำหนัก 70 ตันต่อเที่ยวบินไปยังอิรักวันละ 2 เที่ยว เพื่อจัดตั้งหน่วยงานด้านข่าวกรองและแทรกแซงการสื่อสาร รวมทั้งให้คำปรึกษาแก่บรรดาผู้บัญชาการรบของอิรัก
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอิหร่านได้ออกมาปฏิเสธเรื่องการส่งเจ้าหน้าที่ทหารไปยังอิรัก โดยระบุว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยนายมาร์ซีห์ อัฟคาม โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านกล่าวว่า “ตามที่เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำอิรักได้กล่าวย้ำนั้น ไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารอิหร่านในอิรัก"