ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยวอลล์สตรีท เจอร์นัล-เอ็นบีซี นิวส์ ระบุว่า 1 ใน 3 ของชาวอเมริกันที่มีสิทธิ์เลือกตั้งกล่าวว่า การดิเบตระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญอย่างยิ่ง ที่จะช่วยให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสามารถตัดสินใจได้ว่าจะลงคะแนนให้ใคร
ทั้งนี้ 34% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมองว่า การดีเบตทั้ง 3 ครั้งโดยครั้งแรกจะมีขึ้นที่มหาวิทยาลัยฮอฟสตรา กรุงนิวยอร์ก ในวันจันทร์ที่ 26 ก.ย.ตามเวลาสหรัฐนั้น จะเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจว่า พวกเขาควรจะเลือกใครให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไป
ทางด้านนักวิเคราะห์ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการดีเบต โดยนายสก็อต ไมเนิร์ด หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนระดับโลกของ Guggeheim Partners กล่าวว่า ตลาดหุ้นจะประสบภาวะผันผวน หากนายทรัมป์ทำคะแนนได้ดีกว่านางฮิลลารีในการดีเบตครั้งแรก
"ผมว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นผลดีต่อตลาด เนื่องจากจะเกิดความไม่แน่นอนขึ้น ซึ่งหากนางฮิลลารีพ่ายแพ้ในการดีเบตครั้งแรก สิ่งนี้ก็จะเร่งให้เกิดความผันผวนมากขึ้น" เขากล่าว
ด้านนายรอน ซานเชส นักวิเคราะห์จากบริษัทฟิดูซิอารี ทรัสต์ ระบุว่า ตลาดอาจมีความผันผวน ขณะใกล้ถึงวันเลือกตั้ง และช่วงประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน