แหล่งข่าวของรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาขึ้นบัญชีดำบริษัทจากประเทศจีนและประเทศอื่นๆที่สนับสนุนการติดต่อเรื่องการทำธุรกิจร่วมกับเกาหลีเหนือ
ญี่ปุ่นหวังว่าจะใช้วิธีการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการตัดทรัพยากรทางการเงินของเกาหลีเหนือ โดยมุ่งเป้าไปที่แหล่งที่มาของรายได้ที่ใหญ่ที่สุดจากต่างประเทศ เพื่อตอบโต้การพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลจะสังเกตการณ์การเจรจาเรื่องมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ควบคู่ไปกับการพิจารณาระยะเวลาและกำหนดขอบเขตของการคว่ำบาตรครั้งนี้อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในกรณีของประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของญี่ปุ่นครั้งนี้
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้พุ่งเป้าไปที่บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือ เช่นเดียวกับบริษัทจ้างพนักงานชาวเกาหลีเหนือจำนวนมาก โดยกำหนดเป้าหมายเริ่มต้นไว้ที่บริษัทของประเทศจีนที่ดำเนินกิจการอยู่บริเวณชายแดนจีนที่ติดกับเกาหลีเหนือ
การคว่ำบาตรครั้งนี้จะเชื่อมโยงไปถึงการระงับสินทรัพย์ของบริษัทเหล่านั้นในประเทศญี่ปุ่น และห้ามบริษัทญี่ปุ่นทำธุรกรรมใดๆร่วมกับบริษัทเหล่านั้น โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า รัฐบาลอาจจะร่างกฎหมายพิเศษขึ้นมาหากมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการลงโทษ
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นไปในแนวทางเดียวกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังตรวจสอบบริษัทจากประเทศจีนหลายบริษัท หลังจากที่ได้ลงโทษบริษัท ดันดอง ฮองเซียง จากมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งอยู่ทางชายแดนด้านตะวันออกเฉียงเหนือที่ติดกับเกาหลีเหนือ รวมทั้งผู้บริหารของบริษัทอีก 4 ราย ซึ่งสงสัยว่าให้การสนับสนุนโครงการพัฒนาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
การลงโทษบริษัทที่จ้างพนักงานชาวเกาหลีเหนือครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเรื่องการใช้ช่องทางส่งเงินตราต่างประเทศเข้าไปยังเกาหลีเหนือเพื่อเป็นกองทุนสำหรับพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ โดยทญี่ปุ่นได้ร่วมกับสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เพื่อกระตุ้นให้ประเทศต่างๆที่ต้อนรับแรงงานชาวเกาหลีเหนือหยุดการกระทำเช่นนั้น ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน