คณะผู้ไต่สวนอิสระของเกาหลีใต้ซึ่งกำลังสืบสวนคดีอื้อฉาวของประธานาธิบดีปาร์ค กึน เฮ ได้พุ่งความสนใจไปที่กรณีการติดสินบนของบริษัทซัมซุง กรุ๊ป และกรณีที่ผู้ช่วยระดับสูงของประธานาธิบดีปาร์ค กึน เฮ ต้องสงสัยว่าใช้อำนาจโดยมิชอบ
ทางคณะผู้ไต่สวนยังได้เรียกตัวอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสประจำกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ ที่ถูกตั้งข้อหาละเลยการปฏิบัติหน้าที่มาสอบสวน หลังมีการควบรวมกิจการที่ไม่ชอบมาพากลของบริษัท ชิล อินดัสทรีส์ และบริษัท ซัมซุง ซี แอนด์ ที โดยการควบรวมธุรกิจครั้งนี้มีเป้าหมายเพียงเพื่อจะจัดตั้งบริษัทเพื่อเข้าไปถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้
สำหรับนายลี แจ ยอง รองประธานของซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์นั้น การสืบทอดอำนาจบริหารต่อจากนายลี คุน ฮี บิดาและประธานบริษัทนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากนายลี คุน ฮี ต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมานานกว่า 2 ปี หลังจากป่วยเป็นโรคหัวใจ
อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นในบริษัทซัมซุง ซี แอนด์ ที ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ รวมถึงกองทุนบริหารความเสี่ยงอย่างแอลเลียต แมเนจเมนท์ ได้คัดค้านการควบรวมกิจการดังกล่าว ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับอัตราส่วนการถือครองหุ้นที่ไม่เป็นธรรม แต่กลับไม่เป็นผล เนื่องจากหุ้นส่วนของซัมซุง ซี แอนด์ ที อีก 2 ใน 3 รวมถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่ที่สุดของซัมซุงในตอนนั้น เห็นชอบให้มีการควบรวมกิจการ
ด้วยเหตุนี้ นายฮอง วาน ซุน อดีตเจ้าหน้าที่ประจำกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ จึงได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าละเลยและไม่สนใจความคิดเห็นของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการควบรวมกิจการ แต่กลับเป็นแกนนำในการชักจูงให้กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติเห็นชอบและลงคะแนนเสียงให้มีการควบรวมกิจการแทน
ในขณะเดียวกัน นายมูน ยอง เพียว อดีตรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่า ใช้อำนาจโดยมิชอบในการสั่งการให้กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ เทคะแนนเสียงอย่างเป็นเอกฉันท์ให้ฝั่งที่เห็นด้วยกับการควบรวมกิจการ
ทั้งนี้ มีรายงานว่าคณะผู้ไต่สวนอิสระได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายมูน และอดีตเลขาในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนที่อาจมีจุดประสงค์เพื่อกดดันกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ
การสืบสวนของคณะผู้ไต่สวนอิสระเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีอื้อฉาวที่มีประธานาธิบดีปาร์ค กึน เฮ และนางชเว ซุน ซิล เพื่อนคนสนิท เป็นผู้เกี่ยวข้อง
ในวันเดียวกันนั้น อัยการยังได้บุกเข้าตรวจค้นสำนักงานของกระทรวงสาธารณสุขและกองทุนบำเหน็จบำนาญเช่นกัน โดยมีเป้าหมายที่จะสืบสวนหาพยานหลักฐานคดีติดสินบนระหว่างนางชเวและบริษัทซัมซุง
ทั้งนี้ บริษัทซัมซุงตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าให้การสนับสนุนทางการเงินแก่นางชุง ยู รา ลูกสาวของนางชเว ซุล ซิล ในการเรียนขี่ม้า เพื่อแลกกับการขอให้นางชเวเป็นผู้ติดต่อประธานาธิบดีปาร์ค กึน เฮ ให้ออกคำสั่งไปยังกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ ให้สนับสนุนการควบรวมกิจการ ซึ่งตามกฎหมายของเกาหลีใต้แล้ว การติดสินบนครั้งนี้อาจทำให้นางชเวและประธานาธิบดีปาร์คถูกจำคุกสูงสุดตลอดชีวิต
นอกจากนี้ ซัมซุง กรุ๊ป ยังเคยบริจาคเงินจำนวนมากที่สุดเมื่อเทียบกับเงินบริจาคของบริษัททรงอิทธิพล 10 แห่งของเกาหลีใต้ ให้แก่กองทุนไม่แสวงหาผลกำไร 2 แห่งของนางชเวที่ดูแลด้านกีฬาและวัฒนธรรม
นอกจากบ้านพักของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ทางคณะสืบสวนยังได้บุกคนบ้านพักและสำนักงานของเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม และบ้านพักของนายโช ยูน ซัน รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม สำนักข่าวซินหัวรายงาน