แกลลัพโพลล์ชี้มีการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างหนักในยุครัฐบาลโอบามา

แกลลัพ โพลล์ ได้สำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกัน เนื่องในโอกาสที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เตรียมลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ภายหลังจากที่อยู่ในตำแหน่งมานานถึง 8 ปี

ผลการสำรวจพบว่า ชาวอเมริกันจำนวน 47% เห็นว่า ประธานาธิบดีโอบามาจะได้รับการจดจำในฐานะประธานาธิบดีที่ "โดดเด่น" หรือ "เหนือค่าเฉลี่ย" คนหนึ่ง ขณะที่อีก 35% เห็นว่า เขายังคง "ไม่ดีพอ" หรืออยู่ในระดับ "ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย"

แกลลัพ โพลล์ ระบุว่า ผลสำรวจดังกล่าวได้สะท้อนถึงการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างรุนแรงในช่วงที่นายโอบามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

การสำรวจพบว่า ชาวอเมริกันที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครตจำนวน 84% เห็นว่า นายโอบามามีความโดดเด่นหรืออยู่เหนือค่าเฉลี่ย ขณะที่ฐานเสียงของพรรครีพับลิกันจำนวน 69% กล่าวว่า เขาจะได้รับการจดจำในฐานะประธานาธิบดีที่ไม่มีคุณภาพหรืออยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

ผลสำรวจดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีบารัค โอบามา จากการสำรวจครั้งล่าสุดนี้ ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 4-8 มกราคมที่ผ่านมา มีผลเป็นเชิงบวกมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเขาได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นจากการสำรวจที่เคยทำขึ้นในระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก และช่วงต้นของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2

ทั้งนี้ แกลลัพโพลล์ได้สอบถามชาวอเมริกันถึงผลงานที่ประธานาธิบดีโอบามาได้ฝากไว้ โดยได้ประเมินย้อนหลังไปยังอดีตประธานาธิบดีคนก่อนหน้าอีก 11 ท่าน จนถึงอดีตประธานาธิบดีดไวต์ ไอเซนฮาวร์ พบว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโอบามาอยู่ในลำดับที่ตามหลังเพียง อดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี ซึ่งมีคะแนนนิยม 79% อดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ซึ่งมีคะแนนนิยม 63% และอดีตประธานาธิบดีดไวต์ ไอเซนฮาวร์ ซึ่งมีคะแนนนิยม 50% สำนักข่าวซินหัวรายงาน