นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ออกมาร้องให้ชาวอังกฤษทุ่มคะแนนเสียงให้กับเธอในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเปิดฉากขึ้นในเดือนหน้า เพื่อที่เธอได้มีอำนาจต่อรองกับนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีคนล่าสุดของฝรั่งเศส ในการเจรจาข้อตกลงเพื่อแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ผลการสำรวจของ ICM ระบุว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีคะแนนทิ้งห่างพรรคแรงงานถึง 22 จุด ก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 8 มิ.ย.
นางเมย์กล่าวว่า ขณะนี้นายมาครองมีอำนาจในการบริหารประเทศเต็มที่ ซึ่งฝรั่งเศสก็แสดงท่าทีแข็งกร้าวในในการเจรจาข้อตกลง Brexit กับอังกฤษ โดยนางเมย์เห็นว่า อังกฤษควรจะมีอำนาจและสิทธิในการเจรจาต่อรองเท่าเทียมกับชาติอื่นๆ
นอกจากนี้ นางเมย์ยังกล่าวอีกด้วยว่า หากชาวอังกฤษให้การสนับสนุนเธอ ก็จะช่วยเสริมอำนาจในการเจรจาต่อรองให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น รวมถึงการกำหนดทิศทางความสัมพันธ์ในอนาคต หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจากยุโรปอย่างเป็นทางการแล้ว
นางเมย์กล่าวว่า เธอต้องการที่จะเข้าพบกับนายมาครอง เพื่อหารือถึงเรื่องข้อตกลง Le Touquet ซึ่งเป็นข้อตกลงที่อนุญาตให้อังกฤษและฝรั่งเศสสามารถควบคุมชายแดนในดินแดนของกันและกันได้
อย่างไรก็ตาม นายมาครองเคยกล่าวไว้ว่า ข้อตกลง Le Touquet "อาจต้องมีการเจรจาตกลงกันใหม่" ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นางเมย์ระบุว่า พรรคอนุรักษ์นิยมจะแถลงนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะพุ่งเป้าไปที่การลดจำนวนผู้ลี้ภัยในประเทศลงให้เหลือน้อยกว่า 1 หมื่นคนต่อปี เนื่องจากเธอมองว่าจำนวนผู้ลี้ภัยที่มากเกินไปได้ส่งผลกระทบต่อการบริการสาธารณะในอังกฤษ อีกทั้งยังกดค่าแรงของแรงงานชาวอังกฤษให้ตกต่ำลงไปด้วย
ปัญหาเรื่องผู้ลี้ภัยที่ไหลทะลักจากสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศอื่นๆเข้ามาสู่อังกฤษนั้น คือหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ชาวอังกฤษเลือกตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรป โดยพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเมย์ก็ได้ประกาศนโยบายในการลดจำนวนผู้ลี้ภัยมาตลอด ตั้งแต่การหาเสียงเลือกตั้งในปี 2553 และ 2558
อย่างไรก็ดี แม้จำนวนผู้ลี้ภัยได้ปรับตัวลดลงในปีที่ผ่านมา แต่ตัวเลขของผู้ลี้ภัยที่เดินทางเข้า-ออกอังกฤษก็ยังคงมีปริมาณสูงถึง 300,000 ราย