นายซิกมาร์ กาเบรียล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแต่จะทำให้ชาติตะวันตกย่ำแย่ลง
นายกาเบรียลกล่าวว่า นโยบาย "อันไร้วิสัยทัศน์" ของรัฐบาลอเมริกันขัดแย้งกับผลประโยชน์ของสหภาพยุโรปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งจะบั่นทอนเสถียรภาพของโลกตะวันตก
นายกาเบรียลกล่าวถึงการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G7 และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า การปฏิบัติหน้าที่ของนายทรัมป์ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐนั้นไม่ค่อยเป็นที่น่าพึงพอใจ หลังจากที่เขาปฏิเสธที่จะให้การรับรองกฏด้านปฏิบัติการทางทหารของนาโต้ และหันหลังให้กับความตกลงปารีสว่าด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ
นายกาเบรียล กล่าวว่า "คนที่ฉีกกฏการปกป้องสิ่งแวดล้อมและทำให้ภาวะโลกร้อนย่ำแย่ลง คนที่เลือกค้าอาวุธให้กับดินแดนที่มีความขัดแย้ง และคนที่ไม่พยายามแก้ปัญหาความขัดแย้งทางศาสนาด้วยวิธีการทางการเมือง คือผู้ที่สั่นคลอนสันติภาพของยุโรป"
คำกล่าวของนายกาเบรียลมีขึ้นในการประชุมนอกรอบซึ่งจัดขึ้นในระหว่างการอภิปรายโต๊ะกลมว่าด้วยวิกฤตผู้ลี้ภัย ณ กรุงเบอร์ลิน
นอกจากนี้ คำกล่าวของนายเบรียลยังสอดคล้องกับการกล่าวสุนทรพจน์ของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีวานนี้ ที่ได้ออกมาส่งสัญญาณให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรป สหรัฐ และอังกฤษ ที่เปลี่ยนแปลงไป
ทั้งนี้ นางแมร์เคิลกล่าวว่า หลังจากที่สหรัฐได้ประธานาธิบดีคนใหม่ และอังกฤษได้เลือกที่จะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) สหภาพยุโรป "จะต้องเป็นผู้ลิขิตชะตาของตัวเอง" ซึ่งสำนักข่าว Spiegel Online ของเยอรมนีระบุว่า การกล่าวสุนทรพจน์ของนางแมร์เคิลและนายกาเบรียลคือการแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า เยอรมนีพร้อมที่จะหันหลังให้กับทรัมป์เช่นกัน