นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้พบปะกันนอกรอบการประชุม G20 ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อวานนี้ โดยนายสีได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างจีนและอังกฤษให้แน่นแฟ้นและยั่งยืน
ประธานาธิบดีจีนกล่าวว่า ด้วยความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย ทำให้จีนและอังกฤษมีความเชื่อมั่นต่อกันและกัน และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในหลากหลายด้าน พร้อมกับกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่มีความคืบหน้าเช่นนี้ ช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆให้กับทั้งจีนและอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2560 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 45 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและอังกฤษ
นอกจากนี้ นายสีกล่าวว่า จีนและอังกฤษให้ความร่วมมือกันในระดับลึก ทั้งในภาคการเงินและพลังงานนิวเคลียร์ รวมทั้งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนบุคลากร
ทั้งนี้ นายสีกล่าวว่า ทั้งสองประเทศควรเพิ่มความร่วมมือและการประสานงานในประเด็นต่างๆทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค รวมทั้งเพิ่มความร่วมมือในกรอบงานระดับพหุภาคีกับองค์กรต่างๆ เช่น องค์การสหประชาชาติ (UN), กลุ่ม G20 และธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB)
ทางด้านนางเทเรซา เมย์ กล่าวว่า อังกฤษมุ่งมั่นที่จะกระชับความสัมพันธ์กับจีนแบบครอบคลุม และยังคงยึดมั่นในแคมเปญ "ยุคทองแห่งความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี" กับจีน โดยอังกฤษให้คุณค่ากับการที่จีนเข้ามาบทบาทในประเด็นต่างๆที่สำคัญของโลก และทั้งสองฝ่ายยังคงแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันในหลายด้าน
นายกรัฐมนตรีอังกฤษยังกล่าวด้วยว่า อังกฤษจะเพิ่มความร่วมมือกับจีนในด้านต่างๆ เช่น การค้า การลงทุน วัฒนธรรม และสังคม รวมทั้งจะเพิ่มการสื่อสารและการประสานงานกับจีนอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ทั้งในประเด็นระดับโลกและระดับภูมิภาค
นอกจากนี้ นางเทเรซา เมย์กล่าวว่า อังกฤษยินดีที่จะมีส่วนร่วมในโครงการ Belt and Road Initiative ของจีน โดยเฉพาะในภาคการเงิน
ทั้งนี้ โครงการ Belt and Road Initiative เป็นโครงการที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เมื่อปี พ.ศ.2556 โดยมีวัตุกประสงค์เพื่อเชื่อมโยงเอเชียเข้ากับยุโรป แอฟริกา และภูมิภาคอื่นๆ ผ่านทางเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานและการค้า ตามรอยเส้นทางสายไหมในอดีต