ผลสำรวจล่าสุดเปิดเผยว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 36% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งไปเมื่อเดือนม.ค.ปีนี้ อีกทั้งยังเป็นคะแนนนิยมของประธานาธิบดีสหรัฐที่ต่ำที่สุดในรอบ 70 ปี
ผลสำรวจดังกล่าวซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวเอบีซี นิวส์ และหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ชี้ให้เห็นว่า คะแนนนิยมของนายทรัมป์ร่วงลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ หลังจากที่พรรครีพับลิกันไม่สามารถนำนโยบายของพรรคมาบังคับใช้ได้ รวมถึงกระแสข่าวที่ว่ารัสเซียได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือนายทรัมป์ในช่วงการหาเสียงเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่หลายฝ่ายเริ่มมองว่า อิทธิพลที่สหรัฐมีต่อประชาคมโลกนั้นเริ่มลดน้อยลง
ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าวเปิดเผยว่า คะแนนนิยมของนายทรัมป์ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 36% จากระดับ 42% นับตั้งแต่เดือนเม.ย. ซึ่งเป็นคะแนนนิยมที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ นับตั้งแต่ยุคของนายแฮรี ทรูแมน ประธานาธิบดีคนที่ 33 ของสหรัฐ
ผู้ตอบแบบสอบถาม 48% ระบุว่า สถานะความเป็นผู้นำโลกของสหรัฐเริ่มเสื่อมอำนาจลงนับตั้งแต่ทรัมป์ก้าวเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนม.ค. ขณะที่มีเพียง 27% ที่มองว่า สหรัฐมีอิทธิพลต่อโลกมากขึ้น นอกจากนี้ 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า นายทรัมป์ไม่สามารถเป็นตัวแทนของสหรัฐในการเจรจาต่อรองกับผู้นำโลกคนอื่นๆได้
นอกจากนี้ ชาวสหรัฐกว่า 4 ใน 10 เชื่อว่า ทีมหาเสียงของนายทรัมป์จงใจร่วมมือกับรัสเซียในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ชาวสหรัฐกว่า 63% ระบุว่า การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายคนโตของประธานาธิบดีทรัมป์ได้พบกับทนายความชาวรัสเซียในช่วงการหาเสียงเมื่อปี 2559 นั้นเป็นเรื่องที่ "ไม่เหมาะสม"
ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 10-13 ก.ค. โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามทางโทรศัพท์รวมกว่า 1,000 คน และมีค่าความคลาดเคลื่อนเฉลี่ยที่ 3.5 จุด