นายคิม อิน รยอง รองเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ (UN) ได้ออกมาเตือนว่า สถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีได้ดำเนินมาถึงจุดวิกฤตแล้ว และอาจปะทุเป็นสงครามนิวเคลียร์ได้ทุกเมื่อ
นายคิมกล่าวต่อคณะกรรมการด้านการลดอาวุธของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวานนี้ว่า เกาหลีเหนือเป็นประเทศเดียวในโลกที่เผชิญภัยคุกคามโดยตรงจากนิวเคลียร์ของสหรัฐนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ดังนั้นเกาหลีเหนือจึงมีสิทธิในการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องตนเอง
เขาระบุด้วยว่า สหรัฐได้จัดการซ้อมรบครั้งใหญ่เป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ สหรัฐยังได้วางแผนปฏิบัติการลับเพื่อโค่นล้มระบอบผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนืออีกด้วย
นายคิมกล่าวว่า "เกาหลีเหนือมีกองกำลังนิวเคลียร์ที่สมบูรณ์แล้วในปัจจุบัน ดังนั้นเกาหลีเหนือจึงกลายเป็นประเทศมหาอำนาจนิวเคลียร์อย่างเต็มตัว ด้วยการมีอาวุธทำลายล้างสูงที่สามารถโจมตีเป้าหมายได้หลายระยะ ทั้งระเบิดปรมาณู ระเบิดไฮโดรเจน และขีปนาวุธข้ามทวีป"
นายคิมกล่าวเตือนทิ้งท้ายว่า "ประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในระยะทำการของขีปนาวุธเรา ดังนั้นหากสหรัฐรุกรานอาณาเขตของเราแม้แต่คืบเดียว เราก็จะลงโทษอย่างรุนแรง ไม่ว่าส่วนไหนของโลกก็หนีไม่พ้น"