แหล่งข่าวทางการทูตเปิดเผยกับสำนักข่าวเกียวโดว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวว่า ญี่ปุ่นควรยิงสกัดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่ถูกยิงข้ามน่านฟ้าเหนือเกาะญี่ปุ่น ก่อนที่มันจะตกลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นก่อนหน้าการมาถึงของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งจะเดินทางมาเยือนญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในการเดินทางเยือน 5 ประเทศในเอเชีย ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐมีกำหนดการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ โดยที่เรื่องของการพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือจะเป็นประเด็นสำคัญในการหารือครั้งนี้
แหล่งข่าวกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับการที่ญี่ปุ่นไม่ตัดสินใจยิงสกัดขีปนาวุธ ขณะคุยโทรศัพท์กับบรรดาผู้นำประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ เพื่อหารือกันถึงวิธีตอบโต้ภัยคุกคามที่มาจากเกาหลีเหนือ
ทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่เข้าใจว่าทำไมดินแดนแห่งนักรบซามูไรจึงไม่ยิงสกัดขีปนาวุธดังกล่าว แหล่งข่าวระบุ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. และ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธ เพื่อท้าทายมติคว่ำบาตรของนานาชาติที่ต้องการบังคับให้เกาหลีเหนือล้มเลิกโครงการพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ โดยขีปนาวุธลูกดังกล่าวถูกยิงผ่านน่านฟ้าเหนือประเทศญี่ปุ่นก่อนจะตกลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
ด้านกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น (SDF) ไม่ได้พยายามสกัดกั้นขีปนาวุธลูกดังกล่าว โดยรัฐบาลกล่าวว่า SDF ได้ตรวจสอบขีปนาวุธที่ถูกยิงขึ้นมาแล้ว และพบว่ามันจะไม่ตกลงบนดินแดนของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้อ้างความสำเร็จในการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และสามารถบรรจุเข้าไปในหัวรบของขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ได้
ขณะที่ สหรัฐและประเทศพันธมิตรต่างต้องการกดดันให้เกาหลีเหนือยุติโครงการนิวเคลียร์ โดยรัฐบาลสหรัฐเคยออกมาประกาศว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้วางทุกทางเลือกในการแก้ปัญหาเรื่องเกาหลีเหนือไว้บนโต๊ะหมดแล้ว ซึ่งรวมถึงการดำเนินการทางทหารด้วยเช่นกัน