นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้แถลงต่อรัฐสภาญี่ปุ่นในวันนี้ โดยนายอาเบะให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนการใช้ช่องทางการทูตอย่างจริงจัง เพื่อสร้างแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือ
ถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการย้ำสิ่งที่นายอาเบะเคยพูดไว้ก่อนการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในการกลับมาเป็นผู้นำอีกครั้งในวาระที่ 2 ทำให้นายอาเบะมีโอกาสเรียกร้องให้พรรคฝ่ายค้านพิจารณาถึงความสำเร็จในการปรับแก้รัฐธรรมนูญญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก
นายอาเบะกล่าวในการประชุมวาระพิเศษของสภาไดเอทซึ่งจัดขึ้นโดยใช้เวลา 39 วัน โดยจะครอบคลุมไปจนถึงวันที่ 9 ธ.ค. ว่า "เราจะต้องทำให้เกาหลีเหนือเปลี่ยนนโยบาย และเพื่อที่ไปจะไปถึงเป้าหมายนั้นโดยสำเร็จ เราจะต้องกดดันเกาหลีเหนือเพิ่มเติมโดยร่วมมือกับประชาคมนานาชาติ" พร้อมให้คำมั่นว่า จะเพิ่มความสามารถในการป้องกันประเทศ ซึ่งรวมถึงการใช้ขีปนาวุธเพื่อการป้องกัน
นายอาเบะยังได้กล่าวถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้มีโอกาสพบปะกับญาติพี่น้องของประชาชนญี่ปุ่นส่วนหนึ่งที่ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวไปในช่วงทศวรรษที่ 70 และ 80 พร้อมกับกล่าวว่า "รัฐบาลญี่ปุ่นมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ ภารกิจของผมจะไม่มีวันจบสิ้นจนกว่าเหยื่อที่ถูกลักพาตัวจะกลับมายังแผ่นดินญี่ปุ่นและได้สวมกอดกับสมาชิกครอบครัวอีกครั้ง"
นอกจากนี้ นายอาเบะกล่าวด้วยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นต้องการร่วมมือกับจีนและเกาหลีใต้ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะจัดประชุมสุดยอดไตรภาคีโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะมีนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เค้าร่วมประชุมด้วย