หน่วยงานสหรัฐประกาศเตือนพลเรือนภายในประเทศว่า ไม่ควรเดินทางไปประเทศแถบแอฟริกาตะวันตกหากไม่จำเป็น โดยประเทศดังกล่าว ได้แก่ กินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน เนื่องจากการระบาดของไวรัสอีโบลาอยู่ในระดับที่ 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และสะท้อนถึงสถานการณ์การะบาดในภูมิภาคนี้ว่า "มีความรุนแรงยิ่งขึ้น"
นายทอม ฟรายเดน ผู้อำนวยการศูนย์การป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐ (CDC) กล่าวในแถลงการณ์ว่า CDC ได้เพิ่มความพยายามยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ใน 3 ประเทศ และจะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมโรคเพิ่มเติม 50 คน เข้าไปในภูมิภาคดังกล่าวภายใน 30 วันข้างหน้า
CDC เปิดเผยก่อนหน้าในสัปดาห์นี้ว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ 12 คน ไปยังกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน เพื่อช่วยเรื่องการควบคุมการระบาด
"นี่เป็นการระบาดของอีโบลาครั้งใหญ่ที่สุด และซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีผู้เสียชีวิตมากมายแล้วในตอนนี้" นายฟรายเดนกล่าว "คงต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน และคงไม่ง่ายนัก แต่เราสามารถหยุดการระบาดของอีโบลาได้ เรารู้ว่าจะต้องทำอะไร"
CDC ยังระบุว่า อีโบลาจะไม่ติดต่อจนกว่าอาการปรากฏ และการติดเชื้ออีโบลาเกิดขึ้นจากการสัมผัสของเหลวภายในร่างกายของผู้มีอาการโดยตรง หรือสัมผัสกับวัตถุ อย่างเช่น เข็ม ซึ่งปนเปื้อนสารคัดหลั่งที่มีเชื้ออีโบลา
องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเมื่อวานนี้ว่า อีโบลาคร่าชีวิตประชาชนไป 729 รายแล้ว และมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1,300 คน สำนักข่าวซินหัวรายงาน