รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2558

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2558

1. ธปท. เผยเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ไตรมาสสุดท้ายปี 58 สดใส

2. กกร. คาดส่งออกปี 58 ติดลบต่ำกว่าร้อยละ -2.0

3. NDRC คาดเศรษฐกิจจีน ปี 58 ขยายตัวร้อยละ 7.0

• ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย สภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายของปี 58 มีแนวโน้มสดใส เนื่องจากอานิสงส์รัฐบาลเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 6.6 หมื่นล้านบาท กระตุ้นให้กลุ่มทุนทะลักเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทั้งนี้ การใช้จ่ายของภาครัฐบาลเป็นปัจจัยสำคัญค้ำจุนเศรษฐกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
• สศค.วิเคราะห์ว่า ในภาพรวมภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือไตรมาส 2 ปี 58 ยังขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยดูจาก 1) เครื่องชี้การบริโภคที่ดูจากภาษีมูลค่าเพิ่มรวม ณ ระดับราคาปัจจุบัน ครึ่งปีแรกขยายตัวร้อยละ +8.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ครึ่งปีแรกขยายตัวร้อยละ +9.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อนประกอบกับยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ครึ่งปีแรกขยายตัวร้อยละ +5.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน2)เครื่องชี้การลงทุนที่ดูจากเม็ดเงินลงทุนในโรงงาน สะสมอยู่ที่ 19.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเม็ดเงินลงทุนในโรงงานสะสมสูงสุด 3 จังหวัดแรก ได้แก่ จ.ชัยภูมิที่ 5.8 พันล้านบาท จ.บุรีรัมย์ 1.9 พันล้านบาท และจ.ขอนแก่น 1.6 พันล้านบาท อย่างไรก็ดี เครื่องชี้เกษตรกรรม ดัชนีราคาผลผลิตประจำภาคครึ่งปีแรก ยังคงหดตัวร้อยละ -3.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อนและเครื่องชี้อุตสาหกรรม ดัชนีผลผผลิตสินค้าอุตสาหกรรมประจำภาคครึ่งปีแรก ยังคงหดตัวร้อยละ -1.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จับตา: การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณรายจังหวัดในช่วงที่เหลือ

• นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทยและในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า กกร. มีความกังวลถึงสถานการณ์การส่งออกเดือนมิถุนายนที่หดตัวร้อยละ -7.9 ซึ่งหดตัวมากขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ทำให้ช่วงครึ่งปีแรกมูลค่าการส่งออกหดตัวถึงร้อยละ -4.8 และอาจส่งผลให้ให้การส่งออกทั้งปีจะหดตัวต่อเนื่องเป็นที่ 3 ติดต่อกัน และมีโอกาสติดลบมากกว่าที่เคยประเมินไว้ที่ร้อยละ -2.0
• สศค.วิเคราะห์ว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าในเดือน มิ.ย. 58 หดตัวในอัตราเร่งขึ้นที่ร้อยละ -7.9 จากการหดตัวของการส่งออกสินค้ายานยนต์และสินค้าเชื้อเพลิงเป็นหลัก ขณะที่การส่งออกรายตลาด พบว่ามีการหดตัวเกือบทุกประเทศคู่ค้าหลัก ซึ่งการส่งออกไทยในครึ่งปีหลังยังคงได้รับความเสี่ยงจาก 1) เศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน 2) ไทยได้รับใบเหลือง IUU หรือกฎระเบียบเพื่อต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมายจากสหภาพยุโรปตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกอาหารทะเลและผูกโยงต่อการส่งออกสินค้าประเภทอื่นด้วย และ 3) การประกาศรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศไทยถูกจัดอันดับให้อยู่ระดับต่ำสุดของประเทศที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐาน (Tier 3) ซึ่งส่งผลกระทบภาพลักษณ์ประเทศและผูกโยงไปถึงสินค้าไทย อยางไรก็ดี ค่าเงินบาทที่มีทิศทางออนค่าลงอาจชวยพยุงการสงออกไทยในชวงครึ่งหลังของปีได้ ทั้งนี้ สศค. คาดว่ามูลค่าส่งออกสินค้าในปี 58 จะหดตัวร้อยละ -4.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ -6.0 ถึง -2.0)จับตา: มูลค่าการส่งออกชายแดนที่เป็นตัวพยุงมูลค่าการส่งออกรวม

• นายเฉิน ตงฉี นักเศรษฐศาสตร์และรองประธานของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ในสังกัดคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีน ในปี 58 จะอยู่ที่ร้อยละ 7.0 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ระดับปานกลาง-สูง และจีนจะยังคงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก
• สศค.วิเคราะห์ว่า 1) ในช่วงครึ่งแรกของปี 58 GDP จีน ขยายตัวร้อยละ 7.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน 2) จากเครื่องชี้เศรษฐกิจล่าสุดในด้านอุปสงค์ พบว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 6 เดือนแรกของปี 58 ขยายตัวร้อยละ 11.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมูลค่าการส่งออก เดือน มิ.ย. 58 กลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 2.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 4 เดือน อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานแล้ว พบว่าส่งสัญญาณชะลอตัว สะท้อนจาก ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมโดย HSBC เดือน ก.ค. 58 ปรับลดลงอยู่ที่ระดับ 48.2 จุด จากระดับ 49.4 จุด นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน สะท้อนภาคการผลิตที่ส่งสัญญาณหดตัวต่อเนื่อง ทำให้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวที่ร้อยละ 6.9 (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ค. 58) จับตา: ตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 3

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257