KTAMเปิดเทรดกองทุนCHINA

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 22, 2010 17:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--บลจ.กรุงไทย ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับ กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์ ซึ่งอ้างอิงกับหลักทรัพย์ต่างประเทศตัวแรกของไทย มูลค่ากองทุนที่ขอยื่นจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ 3,000 ล้านบาท พร้อมเข้าซื้อขาย 22 พฤศจิกายน นี้ นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับ กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์ ซึ่งเป็นอิควิตี้ อีทีเอฟ ที่อ้างอิงกับราคาหลักทรัพย์ต่างประเทศตัวแรกของไทย เข้าซื้อขายในหมวดธุรกิจหน่วยลงทุน ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2553 เป็นต้นไป โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “CHINA” “กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์ นับเป็นสินค้าใหม่ที่น่าสนใจ และเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์รายตัว เนื่องจากอิควิตี้ อีทีเอฟที่จะเข้าซื้อขายนี้ สะท้อนอัตราผลตอบแทนของกองทุนรวมหลักได้แก่ W.I.S.E. — CSI 300 China Tracker ที่มุ่งสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี CSI 300 ที่กระจายการลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ และซื้อขายในสกุลเงินหยวน กองทุนมีการบริหารจัดการโดยสถาบันการลงทุนที่น่าเชื่อถือ จึงคาดว่าจะได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนอย่างรวดเร็ว ” นายจรัมพรกล่าว ด้านนายสมชัย บุญนำสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กองทุน CHINA เปิดจำหน่าย IPO เมื่อวันที่ 8-12 พฤศจิกายน 2553 โดยมีมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้นกว่า 389 ล้านบาท ทั้งนี้ กองทุน CHINA เป็นการร่วมมือกันระหว่างบลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทจัดการลงทุนที่เป็นที่ยอมรับในด้านประสบการณ์ในการบริหารกองทุนอีทีเอฟ โดยผู้บริหารจัดการกองทุนหลัก ได้แก่ บริษัทบีโอซีไอ-พรูเด็นเชียล แอสเส็ท แมเนจเมนท์ ลิมิเต็ด ซึ่งได้รับรางวัล “Best China A-Shares Award ประจำปี 2010 จากนิตยสาร Asian Investor ส่วนที่ปรึกษาของกองทุน ได้แก่ บริษัทโพลาริส อินเตอร์เนชั่นแนล ซิเคียวริตี้ส์ อินเวสเมนท์ ทรัสต์ คอมปานี ลิมิเต็ด (พีเอสไอทีซี) มีความเชี่ยวชาญในการออกอิควิตี้อีทีเอฟที่สะท้อนการลงทุนในตลาดทุนของจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และไต้หวัน และได้รับรางวัล “ETF Performance Award — Asia” จากนิตยสาร Asian Investor และ “ETF Manager of the Year — Asia” จากนิตยสาร Asia Asset Management Magazine ในปี 2009 นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่ากองทุน CHINA เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับประโยชน์จากประเทศสาธารณัฐประชาชนจีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 2.65 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ กองทุนนี้จะเป็นประตูให้นักลงทุนไทยสามารถรับผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของกองทุนหลักที่สะท้อนดัชนีราคาหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่หรือหุ้น A-Shares ได้ นอกจากนี้การที่สัดส่วนราคาของหุ้น A-Shares ที่เคยสูงกว่า H-Shares ลดลงมากส่งผลให้หุ้น A-Shares เริ่มมีความน่าสนใจกว่าหุ้น H-Shares เนื่องจากมีความสมดุลในการกระจายตัวในแต่ละภาคอุตสาหกรรมสูงกว่า โดยมีสัดส่วนในภาคการบริโภค และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งรัฐบาลจีนมีนโยบายสนับสนุนอย่างชัดเจน และที่สำคัญนักลงทุนจะสามารถทำการซื้อหรือขายหน่วยลงทุนได้ตลอดเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการเหมือนหลักทรัพย์อื่นๆทั่วไป “CHINA” มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง โดยบริษัทจัดการจะพิจารณาจ่ายในอัตราไม่เกินร้อยละ 100 ของกำไรสะสมหรือกำไรสุทธินั้น ๆ และการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะไม่ทำให้มีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นในงวดบัญชีที่มีการจ่ายเงินปันผลนั้น “CHINA” จัดตั้งโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด(มหาชน) และทีมจัดตั้งและบริหารจัดการ โดยมี บล. ภัทร จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ร่วมค้าหน่วยและผู้ดูแลสภาพคล่อง ผู้ร่วมค้าหน่วยรายอื่น คือ บล.เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน), บล. บัวหลวง จำกัด (มหาชน), ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด, บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บล.เคที ซิมิโก้ จำกัด ส่วนผู้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาการลงทุนคือ บริษัทโพลาริส อินเตอร์เนชั่นแนล ซิเคียวริตี้ส์ อินเวสเมนท์ ทรัสต์ คอมปานี ลิมิเต็ด (Polaris International Securities Investment Trust Co.,Ltd.) และมี บ.ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นนายทะเบียน ผู้สนใจข้อมูลของ กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ ณ ขณะซื้อขาย (Real Time)รวมทั้งรายงานราคาหลักทรัพย์ได้ทางMoney Channel ทางTrue Visions ช่อง80 รวมทั้งดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของบลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ www.ktam.co.th และตลาดหลักทรัพย์ฯที่ www.set.or.th , www.settrade.com หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ SET Call Center 0 2229 2222

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ