กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น
นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด ได้เปิดเผยว่า ตนได้วางเป้าหมายที่จะนำสินค้าและธุรกิจของไทยเปิดตลาดการค้าในประเทศกาตาร์ ซึ่งเป็นประเทศร่ำรวย มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดในกลุ่มประเทศ GCC โดยรายได้ประชาชาติต่อหัว 67,090 ดอลลาร์สหรัฐ/คน/ในปี2553 นับเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูงที่สุดของโลก และสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการผงาดขึ้นเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก2022ในปี2565ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติประเทศแรกที่ได้จัดฟุตบอลโลก กาตาร์เป็นประเทศคู่ค้าอับดับ 4 ของไทยในกลุ่มประเทศริมอ่าวอาหรับ มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง สินค้าออกของไทยไปกาตาร์ที่สำคัญ ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม เครื่องจักรกล อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น
“เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เวก้าฯได้นำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ “Project Qatar 2011” เมืองโดฮา ซึ่งจัด2-5 พฤษภาคม 54 ประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับเกินคาด และขณะนี้ผมกำลังรวบรวมผู้ประกอบการสินค้าอุปโภค บริโภค อัญมณีและเครื่องประดับ ของที่ระลึก ของตกแต่งบ้าน เข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั่วไป “Doha Trade Fair 2011” เมืองโดฮา ที่กำลังจะจัดในวันที่ 4-13 กรกฎาคมนี้” นายอัครวุฒิ กล่าวอีกด้วยว่า เป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการและนักธุรกิจในกลุ่มก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ของไทย จะเข้าไปทำตลาดในกาตาร์ เนื่องจากพลังงานน้ำมันที่มีสำรองของกาตาร์มีการคาดการณ์ว่าจะมีอยู่ได้อีกภายใน50-60ปีเช่นเดียวกับกลุ่มประเทศอาหรับอื่นๆ ทำให้กาตาร์ต้องหาแหล่งรายได้อื่นๆเตรียมไว้เช่น อสังหาริมทรัพย์ การค้า การท่องเที่ยว และการบริการฯลฯ จึงมีการพัฒนาประเทศเกิดโครงการก่อสร้างมากมายควบคู่กับนโยบายบริหารประเทศเพื่อเตรียมการณ์เป็นประเทศท่องเที่ยวดังกล่าว กาตาร์สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการผงาดขึ้นเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก2022ในปี2565 ซึ่งจะทำให้เกิดกระแสเงินสะพัดจากทั่วทุกมุมโลกอย่างมหาศาล รวมทั้งการที่กาตาร์เป็นประเทศร่ำรวย มีการจับจ่ายใช้สอยเงินทองแพร่กระจายอย่างมากมายและมีศักยภาพในการซื้อสูง เป็นช่องทางตลาดการค้าการส่งออกให้กับสินค้าทั่วไปของไทยอีกตลาดหนึ่งไม่ว่าจะเป็นสินค้าของที่ระลึก ของตกแต่งบ้าน เครื่องประดับหรูหรา โดยบริษัทเวก้าฯ ได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมของภาครัฐ และภาคการส่งออกทุกทางที่จะให้ความรู้ความเข้าใจในการทำตลาดการค้าที่ประเทศกาตาร์ เทคนิคการเตรียมความพร้อมในการเจรจาธุรกิจในงานแสดงสินค้าเฉพาะกลุ่มต่างๆ
กาตาร์ปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตย เศรษฐกิจร้อยละ63 ขึ้นอยู่กับภาคพลังงาน รายได้ส่วนใหญ่มาจากการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยปัจจุบันกาตาร์สามารถผลิตน้ำมันได้ประมาณ 1,000,000 บาร์เรล/วัน มีแหล่งสำรองก๊าซธรรมชาติใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากรัสเซียและอิหร่าน แต่เป็นแหล่งก๊าซลักษณะบ่อเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก (North field) กลายเป็นประเทศผู้ส่งออก LNG มากที่สุดในโลก และคาดว่าในปี 2555 กาตาร์จะสามารถผลิต LNG ได้ถึงร้อย ละ 30 ของการผลิต LNG ทั่วโลกหรือประมาณ 77 ล้านตัน/ปี กาตาร์ต้องการเป็นศูนย์กลางการเงินในภูมิภาค มีโครงการก่อสร้างสนามบินขนาดใหญ่และทันสมัยระดับโลก มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้กรุงโดฮาเป็นศูนย์กลางการบิน และมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและปรับปรุงทัศนียภาพประเทศให้สวยงาม (beautification) ซึ่งรวมถึงโครงการก่อสร้างอาคารขนาด 100 ชั้น และอาคารคู่ สูงขนาด 510 เมตร บนถนนกรุงโดฮา มีโครงการถมทะเลเพื่อสร้างเกาะ Pearl Island ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั้งบนฝั่งทวีปและในทะเล และยังมีโครงการอาหารปลอดภัย (Food security) อีกด้วย
สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:กรปณต วงษ์สุนทร(ต่าย)
โทร.02-995-5900 กด 1 อีเมลล์tai.wongsuntorn@yahoo.com