กรุงเทพ--3 มี.ค.--ลีดดิ้ง มายด์
ทอม ปีเตอร์ส กูรูด้านบริหารจัดการธุรกิจระดับโลก ชี้ชัด "ศตวรรษที่ 21 นี้ นักธุรกิจไทยต้องคิดใหม่ ทำใหม่ เปลี่ยนวิธีบริหารจัดการ" - ไม่เปลี่ยนก็ไม่รอด (change or die )-
ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังก้าวสู่จุดพลิกผันในการเปลี่ยนจากสังคมเกษตรกรรมโลกที่สามไปสู่ประเทศอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนา ทอม ปีเตอร์ส ผู้ซึ่งได้รับฉายาจากนิตยสาร The Economist ว่าเป็น '?berguru of management thinking' หรือ ปรมาจารย์ด้านการบริการ-จัดการ ได้ให้ข้อคิดที่หนักแน่นและเหมาะเจาะกับสถานการณ์ในขณะนี้แก่นักธุรกิจชั้นนำของไทยที่เข้าร่วมการบรรยายว่า "change or die" - ไม่เปลี่ยนก็ไม่รอด
จากการบรรยายในวันจันทร์ (eds note: วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม 2547) ให้กับนักธุรกิจชั้นหัวกะทิของไทย ณ ห้อง นภาลัย บอลรูม โรงแรมดุสิตธานี ทอม ปีเตอร์ส ได้นำเสนอความคิดริเริ่มด้านการบริหารจัดการธุรกิจที่แหวกแนว และเสนอมุมมองทางธุรกิจด้านใหม่ๆ ซึ่งทำให้เขาได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก และจากแนวคิดที่ล้ำสมัยของเขา ทำให้เขากลายเป็นนักเขียนหนังสือด้านธุรกิจที่ขายดีระดับ เบสท์ เซลเลอร์ มากมาย รวมถึงเป็น นักพูดด้านการบริหารจัดการที่ถูกถามถึงมากที่สุดคนหนึ่งของโลกอีกด้วย
ทอม ปีเตอร์ส์ ได้บรรยายในหัวข้อ 'LESSONS OF A LIFTTIME" ซึ่งแบ่งเป็น 5 หัวข้อ (modules) และการมากรุงเทพฯของทอม ปีเตอร์ส ในครั้งนี้ ก็พอดีกับช่วงเวลาที่ เอเชีย บุ๊คส์ วางแผงหนังสือที่ผู้คนรอคอยมากที่สุดของเขา "Re-imagine! Business Excellence in a Disruptive Age" อีกด้วย
การที่ธุรกิจหลายอย่างของไทยกำลังอยู่ในภาวะหัวเลี้ยวหัวต่อ บวกกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ โดยรวม ซึ่งอยู่จุดกึ่งกลางระหว่างสองด้าน ด้านหนึ่งคือ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างมากมายจากแนวคิด ทักษิโณมิกส์ อีกด้านหนึ่งคือวิกฤติเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นอีกระลอก ทอม ปีเตอร์ส กล่าวว่า ผู้นำในอนาคตจะต้องผสมผสาน ต้นทุนทางสติปัญญา (intellectual capital) ความคิดสร้างสรรค์ (creativity) นวัตกรรมใหม่ (innovation) และ ศักยภาพของมนุษย์ (human potential) ให้ลงตัว เพื่อที่จะนำมาสร้างคุณค่าของแบรนด์ (brand value) และความจงรักภักดีของลูกค้า (customer loyalty) ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้นำทางธุรกิจมีทางเลือกและโอกาสมากขึ้น
การสัมมนาตลอดวัน ได้แบ่งเป็นหัวข้อ (modules) ต่างๆ ซึ่งจากการบรรยายครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ทอม ปีเตอร์ส เป็นคนที่มีความคล่องแคล่วและมีชีวิตชีวา ทอม ปีเตอร์ส มีปฏิสัมพันธ์กับคนดูและมีวิธีดึงฟีดแบคจากคนดูอย่างฉับไวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนั่นทำให้ผู้ฟังได้รับสาระความรู้และความบันเทิงไปในขณะเดียวกัน และการผสมผสานเกร็ดความรู้ด้านธุรกิจบวกกับเนื้อหาบางส่วนจากหนังสือของเขา ทอม ปีเตอร์สได้นำเสนอเนื้อหาด้านแนวคิดด้านธุรกิจแนวใหม่ที่จริงจัง ออกมาในรูปแบบของการผสมผสานอารมณ์ขัน การคิดวิเคราะห์ ความคิดในเรื่องทั่วๆไป (common sense) ซึ่งนั่นทำให้ผู้ฟังได้นำสิ่งที่ทอม ปีเตอร์สบรรยายกลับไปขบคิดต่อ
ทีน่า แคสเมอร์ ตัวแทนภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคของ ลีดดิ้ง มายส์ ซึ่งเป็นผู้จัดงานในครั้งนี้กล่าวว่า "ความสำเร็จในการจัดงานครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้คนในวงการธุรกิจของไทย มีความพร้อมในการสนับสนุนแนวคิดด้านการบริหารจัดการธุรกิจระดับโลกแล้ว และ หลังจากนี้ เราได้เตรียมอิมพอร์ต กูรูที่มีชื่อเสียงท่านอื่นๆอีกมากมายเข้ามาบรรยายในกรุงเทพฯ แล้ว"
สำหรับงานในครั้งนี้ สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (โทร. 02-3197675-8) เป็นผู้ดูแลเรื่องการติดต่อประสานงานรวมถึงการลงทะเบียนเข้าฟังการบรรยาย นอกจากนั้น งานในครั้งนี้ยังมีผู้สนับสนุนการจัดงานอื่นๆอีกมากมาย
ประวัติย่อของ มิสเตอร์ ทอม ปีเตอร์ส
ทอม ปีเตอร์ส จบการศึกษาระดับปริญญาโท และ เอก จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในปี 1966 ถึง 1970 เขาได้ร่วมงานกับกองทัพเรือสหรัฐ (US Navy) โดยปฏิบัติงานในเวียดนามและวอชิงตัน ปี 1973 ถึ ง 1974 เขาได้เป็นผู้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยาเสพย์ติดในทางที่ผิดที่ทำเนียบขาว และในปี 1974 ถึง 1981 เขาได้ทำงานในบริษัท McKinsey & Co. และได้เข้าเป็นหุ้นส่วนในปี 1977
ทอมเป็นนักคิดและเป็นผู้จุดประกายความคิดด้านการจัดการชั้นยอด เขายังเป็นผู้แต่งหนังสือที่ได้รับการตีพิมพ์มากที่สุดในวงการธุรกิจนั่นก็คือ In Search of Excellence ซึ่งหนังสือเล่มนี้ ได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 3 หนังสือด้านธุรกิจแห่งศตวรรษ เลยทีเดียว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี้ ทอมมีส่วนสำคัญอย่างมากในการจุดประกายและสร้างแนวคิดใหม่ๆ ทางด้านการจัดการให้แก่วงการนักธุรกิจและนักการจัดการเป็นจำนวนมาก เพราะทอมเป็นนักคิด นักพูด นักเขียน ที่มีความโดดเด่นมากเท่าที่แวดวงธุรกิจเท่าที่เคยมีมา ไม่ผิดเลยที่จะกล่าวว่า ทอม ปีเตอร์ส ไม่กลัวที่จะพูดในสิ่งที่เขาคิด และการบรรยายของเขาก็มักทำให้ผู้ฟัง เซอร์ไพร์ส และ พอใจมาก จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ Business Week เรียกเขาว่า "Business" best friend and worst nightmare หรือ เพื่อนคู่คิดที่ดีที่สุด และ ฝันร้ายที่สุดทางธุรกิจเช่นกัน
ข้อมูลโดยย่อของ Leading Minds บริษัทผู้จัดงานบรรยายครั้งนี้
Leading Minds เป็นผู้เชี่ยวชาญในการจัดงานพับลิคอีเวนท์ต่างๆ ทั่วโลก โดยมี The Leading Minds เป็นผู้ให้การสนับสนุน สำหรับผู้บรรยายที่ร่วมบรรยายในงานอีเวนท์ของ Leading Minds นั้น มักจะมีผู้ที่มีชื่อเสียงที่มีผู้ติดตามผลงานจากหนังสือหรือสื่ออื่นๆอยู่แล้ว ผู้บรรยายที่สำหรับที่เคยบรรยายในงานสัมมนาของลีดดิ้ง มายด์ ก็รวมไปถึง ศาสตราจารย์ ไมเคล พอร์ตเตอร์ และ ศาสตราจารย์ แกรี่ย์ ฮาเมล ซึ่งเป็นนักพูดที่มีชื่อเสียงมากด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจ นอกจากนั้นยังมีศาสตราจารย์ โรเบิร์ต แคพลาน และ เดวิด นอร์ตัน บิดาแห่ง Balanced Scorecard รวมถึง ทอม ปีเตอร์ส สุดยอด Guru ด้านการจัดการด้วย
จากชื่อเสียงของวิทยากรที่มาบรรยายในแต่ละครั้ง รวมถึงคุณภาพด้านการบริการลูกค้า บวกกับการดูแลเอาใส่ใจในความต้องการของลูกค้าในทุกรายละเอียด ทำให้ผู้เข้าร่วมในงานของ Leading Minds ได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่าและอยู่ในความทรงจำตลอดมา สิ่งต่างๆเหล่านี้ ทำให้ Leading Minds เป็นอีกหนึ่งทางเลือกขององค์กรธุรกิจที่ต้องการผนวกความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่ๆเข้ากับความสามารถทางการตลาดขององค์กร เพื่อพัฒนาทักษะด้านการจัดการให้เฉียบคมมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงการบริหารองค์กรโดยรวมด้วย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อีเวนท์ของ Leading Minds สามารถติดต่อได้ที่ Tina Kazmer - Business Manager - Asia Pacific - Leading Mindsโทร. 61 2 99 23 5027 E-mail: tkazmer_leadingminds@iir.com.au Website: www.leading-minds.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
ลักษณาวดี บุญมี (ฝ่ายประชาสัมพันธ์)
โทร. 02-2364984-5, 02-2331714-6
แฟกซ์. 02-2384971
มือถือ. 09-7678913
อีเมล์ joelpr@loxinfo.co.th--จบ--
-นห-