บลจ.ทหารไทย เตรียมจัด 3 ทัพลงทุนบุกตลาด เน้นออกแบบให้พอดีกับความต้องการของผู้ลงทุนด้วยการกระจายสินทรัพย์และสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมตามระยะเวลา

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 23, 2012 18:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--บลจ.ทหารไทย ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (บลจ.ทหารไทย) เปิดเผยว่า กลยุทธ์การบริหารงานของบริษัทฯ ในปีนี้ ได้เน้นการให้ความสำคัญต่อผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นอันดับแรก (Customer Centric) โดยกำหนดกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อให้ประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างครอบคลุมทุกด้าน โดยเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ครอบคลุมและตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ลงทุน ล่าสุดบริษัทฯ เตรียมเปิดตัวจัด 3 ทัพกองทุนน้องใหม่พร้อมกันเป็นครั้งแรก ประกอบด้วย กองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุนระยะสั้น (TMB Asset Allocation Short Term Fund) เหมาะกับผู้ต้องการลงทุนระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี กองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุนระยะปานกลาง (TMB Asset Allocation Medium Term Fund) เหมาะกับผู้ลงทุนระยะเวลาประมาณ 3-5 ปี และกองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุนระยะยาว (TMB Asset Allocation Long Term Fund) เหมาะกับระยะเวลาลงทุนประมาณ 5 ปี ขึ้นไป โดยจะนำเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม — 5 เมษายน 2555 นี้ สำหรับแนวคิดในการจัดตั้ง 3 ทัพกองทุนดังกล่าวนั้น ดร.สมจินต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ไม่เพียงแต่จะมุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ลงทุนเท่านั้น แต่เรายังมองว่าหัวใจสำคัญที่สุดของการลงทุน คือการจัดสรรสินทรัพย์ทางการลงทุน (Asset Allocation) ในสัดส่วนที่เหมาะสมลงตัว ควบคู่ไปกับการกระจายความเสี่ยงที่ดี และปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้วัตถุประสงค์หรือความต้องการ ที่แตกต่างกันของผู้ลงทุน บรรลุผลสำเร็จนั้นเกิดจากช่วงระยะเวลาของการลงทุน (Investment Horizon) ด้วยแนวคิดดังกล่าว การสร้างความเชื่อมโยงกันของคุณค่าจากการจัดสรรสินทรัพย์ที่ดีกับการสร้างกรอบระยะเวลาการลงทุนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของผู้ลงทุน (Purpose-Driven Investment) ได้อย่างเหมาะสม จึงจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางการลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด กองทุนทั้ง 3 จึงได้ออกแบบมาจากแนวคิดดังกล่าว ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เมื่อกองทุนผ่านการพินิจพิเคราะห์อย่างรอบคอบจากข้อมูลและประสบการณ์ลงทุนของทีมผู้จัดการกองทุนมืออาชีพของบริษัทฯ ซึ่งคอยทำหน้าที่ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนทุกขั้นตอนอย่างมีประสิทธิภาพ (Operational Efficiency) พร้อมทั้งมีการกระจายสัดส่วนการลงทุนที่ดี (Diversification) ภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม จึงทำให้กองทุนแต่ละกองทุนมีความเหมาะสมและลงตัวได้พอดีกับระยะเวลาการลงทุน ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เราจึงเชื่อมั่นว่ากองทุนทั้ง 3 จะสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ผู้ลงทุนแต่ละท่านมุ่งหวังไว้ได้อย่างแท้จริง หรือพูดง่ายๆ ก็คือการกระจายสินทรัพย์และสัดส่วนการลงทุนรวมทั้งระยะเวลาที่แตกต่างกันไปของแต่ละกองทุนนั้นก็เปรียบเสมือนการที่บริษัทฯ ได้ออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้าให้แก่ผู้ลงทุนสวมใส่ได้อย่างพอดีนั่นเอง (Tailor-made) สำหรับรายละเอียดโดยทั่วไปของกองทุนนั้น กองทุนทั้ง 3 ขนาดคือ S M L จะมีการแบ่งสัดส่วนการ ลงทุนและมีความเหมาะสมต่อระยะเวลาการลงทุนที่ชัดเจน กล่าวคือ กองทุน S จะมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนประมาณร้อยละ 15 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และเหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในช่วงระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี ส่วนกองทุน M จะมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนประมาณร้อยละ 30 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะเวลาประมาณ 3-5 ปี ขณะที่สัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนของกองทุน L จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทีมผู้จัดการกองทุนของบริษัทฯ โดยกองทุน L นี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ขณะเดียวกันก็เข้าใจง่ายด้วยนโยบายบริหารการลงทุนแบบเชิงรับ (Passive Investment) ในส่วนของการลงทุนในตราสารทุนโดย บริษัทฯ จะมุ่งสร้างผลตอบแทนให้ได้ใกล้เคียงกับดัชนีผลตอบแทนรวม SET50 ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นความชำนาญของบริษัทอยู่แล้ว ส่วนของการลงทุนในตราสารหนี้จะมีกลยุทธ์ในการบริหารแบบเชิงรุก (Active Management) โดยคำนึงถึงอายุของตราสาร ดูเรชั่นเฉลี่ยของพอร์ตการลงทุน และเน้นหนักเรื่องการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ใน 3 ด้านคือ Credit Risk, Market Risk และ Liquidity Risk และเสริมคุณค่าของกองทุนทั้ง 3 ด้วยความคล่องตัวโดยสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ ดร.สมจินต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เราเชื่อเหลือเกินว่ากองทุนที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และระยะเวลาการลงทุน รวมทั้งความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของผู้ลงทุนแต่ละบุคคลนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนบรรลุวัตถุประสงค์การลงทุนได้อย่างง่ายดาย แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนเองก็ควรมีวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายทางการลงทุนที่ชัดเจนประกอบกับมีวินัยในการออมเงินหรือลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งบางครั้งสิ่งที่ทำให้ผู้ลงทุนไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์การลงทุนที่ตั้งไว้ อาจเป็นเพราะขาดการบริหารจัดการเงินลงทุนอย่างมีระบบและขาดการกระจายสินทรัพย์ทางการลงทุนที่เหมาะสมหรือยังไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเงินลงทุนและเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนจากการลงทุน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1725 หรือธนาคารทหารไทยทุกสาขาทั่วประเทศ หรือตัวแทนการสนับสนุนการขายอื่นที่ได้รับการแต่งตั้ง หรือที่ www.tmbam.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ